ความชนะในมนุษย์โลกและเทวโลกย่อมมีได้เพราะ ศีล และ ปัญญา (๒)

 
pirmsombat
วันที่  15 ก.พ. 2554
หมายเลข  17889
อ่าน  2,158

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์......................................................................................

ข้อความใน ปรมัตถทีปนี อรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทวาทสกนิบาต

สีลวเถรคาถา ข้อ ๓๗๘

ซึ่งท่านพระสีลวเถระ กล่าวคาถาว่า ท่านทั้งหลาย พึงรักษาศีลในศาสนานี้

ด้วยว่าศีลอัน บุคคลศึกษาดีแล้ว สั่งสมดีแล้ว ย่อมนำสมบัติทั้งปวงมาให้

ในโลกนี้

นักปราชญ์เมื่อปรารถนาความสุข ๓ ประการคือ

ความสรรเสริญ ๑

การได้ความปลื้มใจ ๑

ความบันเทิงในสวรรค์เมื่อละไปแล้ว ๑

พึงรักษาศีล

ด้วยว่าผู้มีศีล มีความสำรวม ย่อมได้มิตรมาก

ส่วนผู้ทุศีลประพฤติกรรมอันลามก ย่อมแตกจากมิตร

นรชนผู้ทุศีล ย่อมได้รับการติเตียน และ ความเสียชื่อเสียง

ส่วนผู้มีศีล ย่อมได้รับการสรรเสริญ และ ชื่อเสียงทุกเมื่อ

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย และเป็น

ประธานแห่งธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นพึงชำระศีลให้บริสุทธิ์

สังวรศีล เป็นเครื่องกั้นความทุจริต ทำจิตให้ร่าเริง

เป็นขาที่หยั่งลงสู่มหาสมุทร คือนิพพานของพระพุทธเจ้าทั้งปวง

เพราะฉะนั้นพึงชำระศีลให้บริสุทธิ์

ศีลเป็นกำลัง หาที่เปรียบมิได้ เป็นอาวุธอย่างสูงสุด เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ

เป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์

ศีลเป็นสพาน เป็นอำนาจใหญ่ เป็นกลี่นหอมอย่างยอดเยี่ยม เป็นเครื่องลูบไล้

อันประเสริฐ

บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีลย่อม หอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ ศีลเป็นเสบียงอันเลิศ

เป็นเสบียงเดินทางขั้นเยี่ยม เป็นพาหนะอันประเสริฐยี่งนัก เป็นเครื่องหอมฟุ้งไปทั่ว

ทุกทิศานุทิศ

คนพาลผู้มีจิตไม่ตั้งมั่นในศีล ย่อมได้รับการนินทา ในเวลาที่มีชีวิตอยู่ใน

โลกนี้เมื่อตายไปแล้ว ย่อมได้รับทุกข์โทมนัสในอบายภูมิ ย่อมได้รับทุกข์

โทมนัสในที่ทั่วไป

ธีรชนผู้มีจิตตั้งมั่นด้วยดีในศีล ย่อมได้รับการสรรเสริญ ในเวลาที่มีชีวิต

อยู่ในโลกนี้ครั้นตายไปแล้วก็ได้รับความสุขโสมนัสในสวรรค์ ย่อมร่าเริงใจใน

ที่ทุกสถานในโลกนี้

ศีลเท่านั้นเป็นยอด และผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุดในโลกนี้ ความชนะในมนุษย์โลกและเทวโลกย่อมมีได้เพราะ ศีลและปัญญา

การฟังพระธรรม ประโยชน์คือ เห็นประโยชน์ของธรรมฝ่ายดี แล้วอบรมเจริญ

จนกระทั่งถึงที่สุดคือรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

ซึ่งต้องเป็นผู้ละเอียดที่จะต้องพิจารณาตนเอง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 16 ก.พ. 2554

ศีลเป็นกำลัง หาที่เปรียบมิได้ เป็นอาวุธอย่างสูงสุด เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ

เป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์

ศีลเป็นสะพาน เป็นอำนาจใหญ่ เป็นกลี่นหอมอย่างยอดเยี่ยม เป็นเครื่องลูบไล้

อันประเสริฐ

ทำให้ระลึกได้ถึงความสำคัญของศีลเป็นอย่างดีทีเดียวครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pirmsombat
วันที่ 16 ก.พ. 2554

ขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 16 ก.พ. 2554

ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น..กราบท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ขอบพระคุณคุณหมอฯ และขออนุโมทนาค่ะ....เมื่อได้ศึกษาจึงทราบผลของอกุศลกรรม..หรือโทษของการล่วงศีลนั้น ทำให้เห็นพระกรุณาธิคุณแห่งองค์พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งนัก ..มิฉะนั้นคงพลาดแล้วพลาดอีกไม่รู้จบ การสำรวมระวัง และวัรัติสิ่งที่จะทำให้การรักษาศีลต้องมัวหมองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Jesse
วันที่ 16 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chaiyut
วันที่ 17 ก.พ. 2554

ในกาลไหนๆ บัณฑิตทั้งหลายสรรเสริญปัญญา และมีศีลเป็นที่รักรังเกียจระอาความทุศีลซึ่งเป็นเครื่องหักประโยชน์สุขของตนและบุคคลอื่น

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pirmsombat
วันที่ 17 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณ chaiyut ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
bsomsuda
วันที่ 19 ก.พ. 2554

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย

และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นพึงชำระศีลให้บริสุทธิ์

.......การฟังพระธรรม ประโยชน์คือ เห็นประโยชน์ของธรรมฝ่ายดี แล้วอบรมเจริญ

จนกระทั่งถึงที่สุดคือรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

ซึ่งต้องเป็นผู้ละเอียดที่จะต้องพิจารณาตนเอง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
intira2501
วันที่ 26 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ