จงมีธรรมเป็นที่พึ่ง

 
Yongyod
วันที่  28 ต.ค. 2553
หมายเลข  17452
อ่าน  4,591

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ธรรมที่เราได้บรรลุแล้วนี้ลึกซึ้งเห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบประณีต มิใช่วิสัยแห่งสัตว์ คือ คิดเอาไม่ได้ หรือไม่ควรลงความเห็นด้วยการเดา แต่เป็นธรรมที่บัณฑิตพอจะรู้ได้”

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! จงดูกายอันนี้เถิด ฟันหัก ผมหงอก หนังหดเหี่ยว หย่อนยาน มีอาการทรุดโทรมให้เห็นอย่างเด่นชัด เหมือนเกวียนที่ชำรุดแล้ว ชำรุดอีก ได้อาศัยแต่ไม้ไผ่มาซ่อมไว้ ผูก กระหนาบคาบค้ำไว้ จะยืนนานไป ได้สักเท่าใด การแตกสลายย่อมจะมาถึงเข้าสักวันหนึ่ง พวกเธอทั้งหลาย พวกเธอจงมีธรรมเป็นที่เกาะที่พึ่งเถิด อย่าคิดยึดสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย แม้เราตถาคตก็เป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น”

ขอทุกท่านจงเจริญในกุศลธรรมทุกประการ และมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 28 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาสาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
รษิพร
วันที่ 29 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Nongnuch
วันที่ 30 ต.ค. 2553

Anumotana ka.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 31 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

"ตถาคตก็เป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น" ทำให้ระลึกว่า บ่อยครั้งเราก็ยึดติดในตัวบุคคล

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
aiatien
วันที่ 31 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 1 พ.ย. 2553
อนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 2 พ.ย. 2553

ธรรมะคือ สิ่งที่มีอยู่จริงเกิดขึ้นแล้วดับไป สิ่งที่เกิดดับไม่สามารถเป็นที่พึ่งที่เกาะได้ แต่ "ความเข้าใจความจริงของธรรมะ" เป็นที่พึ่งได้ค่ะ.!เป็น "ที่พึ่งที่แท้จริง"ได้แม้ในขณะที่กำลังจะจากภพชาตินี้ไป.ขณะที่มีสภาพธรรมเกิดขึ้น ปรากฏแล้วสามารถรู้ "ความจริง"ขณะนั้น มีปัญญา-ที่ไม่มีเราและมีสภาพธรรม ที่ปรากฏให้ศึกษาและเข้าใจตามความเป็นจริงได้ ปัญญา คือ "ที่พึ่งที่แท้จริง"

เชิญคลิกอ่าน...ที่พึ่งที่แท้จริงที่พึ่งที่แท้จริง [เรื่องปุโรหิตชื่ออัคคิทัต]

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ