เกี่ยวหญ้าอ่อนให้โคตายกิน [อรรถกถาโคณเปตวัตถุ]

 
Khaeota
วันที่  9 ส.ค. 2553
หมายเลข  16889
อ่าน  1,593

[เล่มที่ 49] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 79

ข้อความตอนหนึ่งจาก ...

อรรถกถาโคณเปตวัตถุ

ว่าด้วยเกี่ยวหญ้าอ่อนให้โคตายกิน

ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี บิดาของคฤหบดีคนหนึ่ง ได้ตายไป. เพราะบิดาตายไป เขาจึงเพียบพร้อมไปด้วยความเศร้าโศก มีหน้านองไปด้วยน้ำตา นัยน์ตาแดง คร่ำครวญอยู่ เดินเวียนขวาเชิงตะกอน. บุตรของเขาชื่อว่า สุชาตะ ยังเป็นเด็ก แต่เป็นคนฉลาดเฉียบแหลม สมบูรณ์ด้วยปัญญา จึงคิดหาอุบายเครื่องกำจัดความเศร้าโศกของบิดา วันหนึ่ง เห็นโคตัวหนึ่ง ตายภายนอกเมืองแล้ว นำเอาหญ้าและน้ำมาวางไว้ข้างหน้าของโคที่ตายแล้วนั้น พลางยืนกล่าวว่า "เอาจงกิน จงกินเสีย จงดื่ม จงดื่มเถิด" คนผ่านไปผ่านมาเห็นเข้า จึงกล่าวว่า "สหายสุชาตะ ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ ที่ท่านนำเอาหญ้าและน้ำไปให้โคที่ตายแล้ว" เขาก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรๆ พวกมนุษย์ จึงพากันไปหาบิดาของเขาแล้ว กล่าวว่าบุตรของท่านเป็นบ้าไปเสียแล้ว เอาหญ้าและน้ำให้โคที่ตายกิน ก็เพราะได้ฟังดังนั้น กุฏุมพีก็คลายความเศร้าโศก ที่เกิดขึ้น เพราะปรารภถึงบิดา เขาถึงความสลดใจว่า "ได้ยินว่าบุตรของเรากลายเป็นคนบ้าไป" จึงรีบไป พลางท้วงว่า "นี่แน่ พ่อสุชาตะ เจ้าเป็นผู้ฉลาดเฉียบแหลมสมบูรณ์ด้วยปัญญามิใช่หรือ แต่เหตุไฉน เจ้าจึงเอาหญ้าและน้ำให้โคที่ตายกินจึงกล่าว ๒ คาถา ว่า

"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ จึงเกี่ยวหญ้าที่เขียวสดแล้ว บังคับโคแก่ที่เป็นสัตว์ตายแล้วว่า จงกิน จงกิน อันโคตายแล้ว ย่อมไม่ลุกขึ้นกินหญ้าและน้ำมิใช่หรือ เจ้าเป็นทั้งคนพาล ทั้งเป็นคนทรามปัญญา เหมือนคนอื่น ที่มีปัญญาทราม ฉะนั้น"

สุชาตกุมารได้ฟังดังนั้น เมื่อจะประกาศความประสงค์ของตนเพื่อให้บิดา ยินยอม จึงได้กล่าว ๒ คาถาว่า

"โคตัวนี้ ยังมีเท้าทั้ง ๔ ข้าง มีศีรษะ มีตัว พร้อมทั้งหาง นัยน์ตา ก็มีอยู่ตามเดิม ข้าพเจ้าคิดว่า โคตัวนี้จะพึงลุกขึ้น- กินหญ้าสักวันหนึ่ง ส่วนว่า มือ เท้า กาย และศีรษะ ของคุณปู่ ไม่ปรากฏ แต่ คุณพ่อมาร้องไห้ถึงกระดูกของปู่ที่บรรจุไว้ในสถูปดิน จะไม่เป็นคนโง่ไปดอกหรือ"

บิดาของพระโพธิสัตว์ได้ฟังนั้นแล้ว จึงคิดว่า บุตรของเราเป็นบัณฑิต ได้ทำกรรมนี้เพื่อให้เราเข้าใจ จึงสรรเสริญบุตรว่า "พ่อสุชาตะ เอ๋ย เราได้รู้แล้วว่า สัตว์ทั้งปวงมีความตายเป็นธรรมดา ตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่เศร้าโศก บุคคลผู้มีปัญญาอัน ชื่อว่าสามารถขจัดความเศร้าโศกเสียได้ พึงเป็นเช่นกับเจ้านี่แหละ

บิดาฟังคำของมาณพแล้ว เป็นผู้ปราศจากความโศก จึงสนานศีรษะ บริโภคอาหาร ทำการงาน เมื่อทำกาละ (ตาย) แล้ว ได้เป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า ในกาลนั้น สุชาตกุมาร ได้เป็นพระโลกนาถ (พระพุทธเจ้า) ในบัดนี้แล


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 14 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ