ว่าด้วยสตรีก็เป็นผู้ประเสริฐได้ [ธีตุสูตร]

 
Khaeota
วันที่  12 พ.ค. 2553
หมายเลข  16142
อ่าน  1,429

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 477๖. ธีตุสูตร

ว่าด้วยสตรีก็เป็นผู้ประเสริฐได้

[๓๗๖] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถึงที่ประทับถวายบังคมแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ลำดับนั้น ราชบุรุษเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลแล้วกราบทูล ณ ที่ใกล้พระกรรณของพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐพระนางมัลลิกาเทวีประสูติพระธิดาแล้ว. เมื่อบุรุษ

กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ไม่ทรงเบิกบานพระทัย.

[๓๗๗] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า พระเจ้าปเสนทิ-

โกศลไม่ทรงเบิกบานพระทัย จึงได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ในเวลานั้นว่า

ดูก่อนมหาบพิตร ผู้เป็นใหญ่ยิ่งกว่า

ปวงชน แท้จริง แม้สตรีบางคนก็เป็นผู้

ประเสริฐ พระองค์จงชุบเลี้ยงไว้ สตรีที่

มีปัญญา มีศีล ปฏิบัติแม่ผัวพ่อผัวดัง

เทวดา จงรักสามี.

บุรุษที่เกิดจากสตรีนั้น ย่อมเป็นคน

แกล้วกล้า เป็นเจ้าแห่งทิศได้ บุตรของ

ภริยาดีเช่นนั้น ก็ครองแม้ราชสมบัติได้. พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 478

อรรถกถาธีตุสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในธีตุสูตรที่ ๖ ต่อไป :-

บทว่า อุปสงฺกมิ ความว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล โปรดให้จัดเรือนประสูติ เวลาพระนางมัลลิกาเทวีประสูติ พระราชทานการอารักขาแล้วเสด็จไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า. บทว่า อนตฺตมโน อโหสิความว่า ทรงเสียพระทัยว่า เราให้อิสริยะอย่างใหญ่แก่ธิดาของตระกูลที่เข็ญใจ ถ้านางได้ลูกชาย ก็จักประสบสักการะอย่างใหญ่แน่แท้ บัดนี้นางสูญสิ้นจากสักการะนั้นไปเสียแล้ว. บทว่า เสยฺยา ความว่า สตรีบางคนถึงจะเสมอกับผู้มีปัญญา ชักช้า ก็ยังประเสริฐกว่าลูกเป็นใบ้.บทว่า โปส แปลว่า โปรดทรงชุบเลี้ยงไว้. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกพระราชาผู้ปกครองประชาชนว่า ชนาธิป. บทว่า สลฺสุเทวาได้แก่ แม่ผัวและพ่อผัวเป็นดังเทวดา. บทว่า ทิสมฺปติ ได้แก่ ผู้เป็นใหญ่ในทิศ. บทว่า ตาทิสา สุภริยา แปลว่า ของภริยาที่ดี

เช่นนั้น. จบอรรถกถาธีตุสูตรที่ ๖


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ