คำถามทบทวน ปรมัตถธรรม ตอนที่ ๑

 
pannipa.v
วันที่  3 พ.ย. 2552
หมายเลข  14136
อ่าน  1,803

คำถามทบทวน
ปรมัตถธรรม ตอนที่ ๑


ขอเชิญชวนสหายธรรม ลองช่วยกันตอบคำถามในปรมัตถธรรมสังเขปซึ่งท่านอาจารย์สุจินต์ ได้กล่าวไว้ในข้อความตอนหนึ่งว่า

"เป็นเรื่องของ ปรมัตถธรรม ๔ ขันธ์ ๕ เท่านั้นเอง แต่แทนที่จะคิดเรื่องอื่น ก็มาสนใจคิดเรื่องนี้บ้าง จะเป็นปัจจัยให้พิจารณาธรรมละเอียดขึ้น"

คำถามของท่านอาจารย์ ก็จะมียากบ้าง ง่ายบ้าง เปิดตำราตอบก็ย่อมได้ จะเฉลยคำตอบในกระทู้นี้ อีก ๗ วัน ค่ะ

๑.ปรมัตถธรรม มีกี่อย่าง อะไรบ้าง
๒.ปรมัตถธรรมอะไร เป็นสังขารธรรม
๓.ปรมัตถธรรมอะไร เป็นอสังขตธรรม
๔.จิต เป็นสังขารธรรม ใช่ไหม
๕.สังขารธรรม เป็นจิต ใช่ไหม

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ


เฉลยคำตอบ

๑.ปรมัตถธรรม มี ๔ อย่าง ได้แก่ จิต เจตสิก รูป นิพพาน
๒.จิต เจตสิก รูป เป็นสังขารธรรม
๓.นิพพาน เป็นอสังขตธรรม
๔.ใช่
๕.สังขารธรรม ไม่ใช่จิตอย่างเดียว เจตสิก และรูป ก็เป็น สังขารธรรม เพราะเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับ

ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 3 พ.ย. 2552

เป็นหัวข้อที่ดีและน่าสนใจมาก

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ตอบได้สบายเลยค่ะพี่ติ๋ว พอดีวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯ ได้สนทนาพอดีเลยค่ะ สนทนากันค่อนข้างอะเอียดด้วยค่ะ ได้ทบทวนคิดและพิจารณาธรรมตามไปด้วย แทนที่จะไปคิดหรือตรึกเรื่องอื่นที่เป็นอกุศล การพิจารณาธรรมบ่อยๆ เนืองๆ ย่อมสะสมเป็นอุปนิสัยที่มีกำลัง เป็นปัจจัยให้กุศลจิตเกิดค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตพี่pannipa.vค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Khaeota
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง มีลักษณะ ศึกษา เข้าใจได้ง่าย เมื่อเป็นเรื่องราวแต่จะเข้าใจจริงๆ ถึงลักษณะ ที่กำลังปรากฏ ทำให้คิดถึงอุปมาที่ท่านอ.แสดงไว้ "เหมือนการจับด้ามมีด"

จะรออ่านคำเฉลยของ K.Pannipa.V นะคะ และมั่นใจได้เลยว่า คำตอบแต่ละข้อต้องละเอียด และจะต้องได้ประโยชน์ยิ่ง เพราะได้ทราบมาว่า K. Pannipa. V เป็นผู้ถอดเทปมือฉมัง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
yupa
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ขอขอบคุณมากกับกระทู้ห้วข้อนี้ เพราะพยายามอ่านหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปแต่อ่านไม่รู้เรื่องเลย ยากมากๆ เลย รอว่าเมื่อไหร่มูลนิธิฯ จะทำหนังสือเสียงสำหรับหนังสือเล่มนี้ออกมาในรูปของ MP3

ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วิริยะ
วันที่ 4 พ.ย. 2552

การศึกษาพระอภิธรรมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บ่อยครั้งที่คิดว่า ตัวเองเข้าใจดีแล้ว แต่พอมาเจอคำถาม ถึงจะเป็นเพียงคำถามสั้นๆ แต่กลับตอบไม่ค่อยได้ หรือตอบได้ก็ยังไม่มั่นใจ มีความลังเลชอบกลอยู่ และบางข้อถึงกับตอบไม่ได้เลยก็มี ยิ่งศึกษาก็ยิ่งลึกซึ้งว่า พระธรรมนั้นยากนัก ไม่ควรประมาทว่าง่าย หรือจะศึกษาเมื่อไหร่ก็ได้

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาต่อคุณ Pannipa V. ค่ะ และกำลังรอคำตอบอยู่อย่างใจจรดใจจ่อ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ขอตอบดูน่ะค่ะ ผิดถูกอย่างไร ขอทุกคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ หรือเข้ามาตอบเป็นข้อๆ ตามความคิดเห็นของแต่ละท่านได้ค่ะ จะได้คิดตรึกถึงเรื่องธรรมดีกว่าไปตรึกแต่เรื่องอกุศลซึ่งมีเป็นปกติในชีวิตประจำวัน...

๑.ปรมัตถธรรมมี ๔ อย่าง ได้แก่ จิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ และนิพพานปรมัตถ์
๒.จิต เจตสิก รูป เป็นสังขารธรรม
๓.นิพพาน เป็นอสังขตธรรม เพราะเป็นธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ หมดปัจจัยปรุงแต่ง
๔.ใช่
๕.สังขารธรรมเป็นจิต ไม่ใช่เพียงจิตเท่านั้นที่เป็นสังขารธรรม เจตสิก และรูปก็เป็นสังขารธรรมด้วย เพราะว่าสังขารธรรม เป็นสภาพที่เกิดดับ ยังมีปัจจัยปรุงแต่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sam
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ทั้งเนื้อหาและคำถาม ในหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปนี้ อ่านทีแรก รู้สึกว่าวกวนซ้ำไปซ้ำมา แต่เมื่อศึกษาต่อๆ มา จึงพบว่าเป็นความละเอียดอย่างยิ่ง ซึ่งไม่ควรมองข้ามความแตกต่างแม้เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วิริยะ
วันที่ 4 พ.ย. 2552

เรียนท่านผู้รู้

สังขารธรรม และ สังขารขันธ์ เหมือนกันหรือไม่

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 4 พ.ย. 2552

คุณ pannipa.v เป็นผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม ความคิดเห็นคมคาย เตือนสติ จึงขอรออ่านเฉลยด้วยคนนะคะ

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 4 พ.ย. 2552

สังขารธรรม ได้แก่ จิต เจตสิก รูป

ส่วนสังขารขันธ์ ได้แก่ เจตสิก ๕๐ ดวง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 4 พ.ย. 2552

เรียนคุณวิริยะค่ะ

สังขารธรรม คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้น เพราะมีปัจจัยปรุงแต่ง สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยปรุงแต่งแล้วก็ดับไป จึงเป็นสังขตธรรม

สังขารขันธ์ คือ เจตสิก ๕๐ ดวง (เจตสิกมีทั้งหมด ๕๒ ดวง เวทนาเจตสิกเป็นเวทนาขันธ์ สัญญาเจตสิกเป็นสัญญาขันธ์ ส่วนเจตสิกที่เหลืออีก ๕๐ เป็นสังขารขันธ์)

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
khampan.a
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วิริยะ
วันที่ 5 พ.ย. 2552

เรียนท่านผู้รู้

รูป ทำไมจึงเป็นสังขารธรรม รูป มีปัจจัยปรุงแต่งแล้วดับไปอย่างไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
prachern.s
วันที่ 5 พ.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ ๑๓ ครับ

จิต เจตสิก รูป เป็นสังขารธรรม เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยปรุงแต่ง รูปมีสมุฏฐานให้เกิด ๔ คือ รูปบางประเภทเกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัย

รูปบางประเภทเกิดเพราะจิตเป็นปัจจัย
รูปบางประเภทเกิดเพราะอุตุเป็นปัจจัย
รูปบางประเภทเกิดเพราะอาหารเป็นปัจจัย

เมื่อรูปเกิดขึ้นมาแล้วตั้งอยู่ชั่วขณะแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
วิริยะ
วันที่ 6 พ.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ 14

ที่ท่านได้กล่าวว่า รูปบางประเภทเกิดเพราะจิตเป็นปัจจัย นั้น หมายความว่า รูป กระทบกับปสาท จึงมีเสียง มีสี มีกลิ่น มีรส มีเย็น ร้อน อ่อน แข็ง เหล่านี้ ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่ กรุณาอธิบายด้วยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
prachern.s
วันที่ 6 พ.ย. 2552

จิตตชรูป คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัย เช่น เสียงพูดของคน การโบกมือ เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า เราต้องการอะไร (วิญญัติ) เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีจิตตชรูปอื่นๆ อีก

รายละเอียดขอเชิญคลิกอ่านที่ จิตตชรูป

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
วิริยะ
วันที่ 6 พ.ย. 2552

ขอบคุณความเห็นที่ 16 มากค่ะ ถ้าไม่ถามผู้รู้ ดิฉันก็คงคิดเองว่า ที่คิดไว้นั้นถูกต้องดีแล้ว จึงอยากทราบว่า สิ่งที่ได้สรุปไปในความเห็นที่ 15 นั้น เกี่ยวกับเรื่องอะไร เป็นเรื่องของวิถีจิต หรือว่าอะไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
prachern.s
วันที่ 7 พ.ย. 2552

จากความเห็นที่ ๑๕

ควรจะกล่าวว่า รูปที่กระทบกับปสาททั้ง ๕ คือ สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ฯลฯ เป็นโคจรรูป ๗ หรือ วิสยรูป ๗

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
วิริยะ
วันที่ 7 พ.ย. 2552

เรียนอาจารย์ประเชิญจากคำตอบในความเห็นที่ 18 ดิฉันคิดว่า ดิฉันน่าจะหยุดถามและกลับไปศึกษาเรื่องรูปเสียก่อน เพราะดิฉันไม่เคยศึกษาเรื่องรูปอย่างจริงจังเสียที และยังไม่เคยศึกษาเรื่องเหตุปัจจัยด้วยค่ะ อย่างไรเสียก็ขอขอบคุณ อาจารย์ประเชิญและคุณ Pannipa V. เจ้าของหัวข้อค่ะ ถ้าจะมีคำถามทบทวนต่อๆ ไปอีก จะยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
anong55
วันที่ 9 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาที่มีเรื่องนี้ เพราะก็มีปัญหาตอบคำถามท้ายบทไม่ค่อยได้เมื่ออ่านแล้ว ตอบคำถามได้บ้างไม่ได้บ้างและเมื่อกลับมาอ่านอีกเมื่อเว้นไประยะหนึ่ง ก็เป็นแบบเดิมอีก ต้องฟัง ฟัง ฟังๆ จนกว่าจะเข้าใจทั่วและเข้าใจยิ่งขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
คุณ
วันที่ 14 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ