โคจร ๓ อย่าง

 
เมตตา
วันที่  10 ต.ค. 2552
หมายเลข  13917
อ่าน  5,350

“โคจร ๓ อย่าง”

โคจรมี ๓ อย่าง คือ

อุปนิสัยโคจร ๑

อารักขโคจร ๑

อุปนิพันธโคจร ๑

ใน ๓ อย่างนั้น ภิกษุใด ประกอบด้วยคุณ คือ กถาวัตถุ ๑๐ มีมิตรดีงาม มีลักษณะดังกล่าวแล้ว ซึ่งอาศัยแล้ว ย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ย่อมทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้ผ่องแผ้ว ตัดความสงสัยเสียได้ ทำความเห็นให้ตรง ทำจิตให้เลื่อมใส ซึ่งเมื่อศึกษาตาม ย่อมเจริญ ด้วยศรัทธา ด้วยศีล ด้วยสุตะ ด้วยจาคะ และด้วยปัญญา นี้ท่านเรียกว่า อุปนิสัยโคจร

ภิกษุใด เข้าไปสู่ละแวกบ้าน เดินไปตามถนน มีตาทอดลง แลดูชั่วแอก เดินสำรวมจักขุนทรีย์ไป ไม่เดินแลพลช้าง ไม่เดินแลพลม้า ไม่เดินแลพลรถ ไม่เดินแลพลราบ ไม่เดินแลหญิง ไม่เดินแลชาย ไม่แหงนดู ไม่ก้มดู ไม่เดินเหลียวแลดู ตามทิศน้อยใหญ่ นี้ ท่านเรียกว่า อารักขโคจร

ส่วน อุปนิพันธโคจร ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔ อันเป็นที่ซึ่งภิกษุเข้าไปผูกจิตของตนไว้ สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไร เป็นโคจร คือเป็นอารมณ์อันเป็นของบิดาของตน ของภิกษุ คือ สติปัฏฐาน ๔.

ในโคจร ๓ อย่างนั้น เพราะอุปนิสัยโคจร ท่านกล่าวไว้ก่อนแล้ว ในที่นี้พึงทราบโคจร ๒ อย่างนอกนั้น ภิกษุนั้นชื่อว่าผู้สมบูรณ์ด้วยอาจาระ และโคจร เพราะประกอบด้วยอาจารสมบัติตามที่กล่าวแล้ว และโคจรสมบัตินี้ ด้วยประการฉะนี้.

(จาก..ปรมัตถทีปนี อรรถกถา [เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เมฆิยสูตร เล่มที่ ๔๔ หน้าที่ ๓๙๕)

คำแปลโดยศัพท์ อุปนิสัยโคจร หรือ อุปนิสยโคจร หมายถึง อารมณ์เป็นที่ท่องเที่ยวไปของจิต อันเป็นเหตุทำให้ได้ที่พึ่งที่มีกำลัง (ซึ่งหมายถึง การคบกัลยาณมิตรจึงได้ที่พึ่งที่อาศัยที่มีกำลัง เพราะจะทำให้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา เมื่อศึกษาตามกัลยาณมิตร นั้น)
แปลโดยศัพท์ อารักขโคจร หมายถึง อารมณ์เป็นที่ท่องเที่ยวไปของจิต อันเป็นเหตุทำให้มีการรักษา (ไม่ให้อกุศลจิตเกิดขึ้น) แปลโดยศัพท์ อุปนิพันธโคจร หมายถึง อารมณ์เป็นที่ท่องเที่ยวไปของจิต อันเป็นเหตุทำให้สติเข้าไปผูกพันไว้ (ซึ่งหมายถึง สติปัฏฐาน ๔ อันเป็นที่ซึ่งภิกษุเข้าไปผูกพันจิตไว้ กล่าว คือ เป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ และที่สำคัญ สติปัฏฐาน ๔ นี้ พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น ทรงอบรมเจริญมาแล้ว)

ขออนุโมทนาคุณคำปั่นที่กรุณาส่งรายละเอียด "โคจร ๓ อย่าง" ให้ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 11 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
opanayigo
วันที่ 11 ต.ค. 2552

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
shumporn.t
วันที่ 12 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 12 ต.ค. 2552

การคบกับกัลยาณมิตรเป้นทางแห่งความเจริญ สูงสุดทำให้บรรลุมรรค ผล นิพพานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 13 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คุณ
วันที่ 14 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pinphaphatson
วันที่ 16 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
dron
วันที่ 26 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
hadezz
วันที่ 21 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เซจาน้อย
วันที่ 21 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pamali
วันที่ 22 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย และ

ขอออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
papon
วันที่ 30 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 8 เม.ย. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 9 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Witt
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
สิริพรรณ
วันที่ 8 ส.ค. 2564

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลพี่เมตตา และอาจารย์คำปั่น ด้วยความเคารพค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
swanjariya
วันที่ 31 ธ.ค. 2564

กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลของท่านอาจารย์คำปั่นและน้องเมตตาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
ภาคภูมิอรุณศรี
วันที่ 1 พ.ค. 2566

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ