ความจริงแห่งชีวิต [134] พุทธญาณ ชื่อว่า อนันตะ แท้ แม้กว่า อนันตะทั้ง ๓ นั้น

 
พุทธรักษา
วันที่  7 ก.ย. 2552
หมายเลข  13474
อ่าน  1,442

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอสังขาริกจิตและสสังขาริกจิต เพื่อให้เห็นความละเอียดของจิตว่า แม้เป็นจิตที่มีจำนวนเจตสิกเกิดร่วมด้วยเท่า​กัน ไม่ต่างกันเลย แต่สภาพของจิตก็ต่างกันเป็นอสังขาริก และสสังขาริก ตามกำลังของเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เพื่อที่จะให้เห็นพระมหากรุณาคุณของพระผู้มีพระภาคที่ทรงพระมหา​กรุณา​แสดงพระธรรมโดยละเอียด ข้อความในอัฏฐสาลินี อรรถกถา ธัมมสังคณีปกรณ์ จิตตุปป​าทกัณฑ์แสดง “อนันตะ” ความกว้างใหญ่ที่สุด ๔ อย่างว่า

ในที่นี้ท่านถือเอา "อนันต​ะ" ๔ อย่าง ก็​อนันต​ะ ๔ อย่าง​ คือ อากาศ​เป็น​อนันต​ะ​ไม่มี​ที่สุด ๑ จักรวาล​เป็น​อนันต​ะ​ไม่มี​ที่สุด ๑ สัต​ตนิ​กาย คือ หมู่​สัตว์​เป็น​อนันต​ะ​ไม่มี​ที่สุด ๑ พุทธ​ญาณ​เป็น​อนันต​ะ​ไม่มี​ที่สุด ๑

จริงอยู่การกำหนดอากาศว่า​ในทิศบูรพา ในทิศปัจฉิม ในทิศอุดรหรือในทิศทักษิณ มีเท่านั้นร้อยโยชน์ หรือมีเท่านั้นพันโยชน์ย่อมไม่ได้ (ลองกำหนดอากาศทางทิศตะวันออกว่า มีเท่าไร กี่โยชน์ กี่ร้อยโยชน์ กี่พันโยชน์ ก็ไม่มีใครกำหนดได้แม้ทิศอื่นๆ ก็โดยนัยเดียวกัน) แม้จะพึงเอา​ฆ้อนเหล็กขนาดเท่า​เขา​สิเนรุทุบแผ่นดินแยกเป็น ๒ ส่วนแล้วโยนฆ้อนเหล็กไป ฆ้อนเหล็กก็พึงตกลงไปข้างล่างโดยแท้ หา​มีที่รองรับไว้ได้ไม่ ชื่อว่า​อากาศเป็นอนันตะ คือ ไม่มีที่สิ้นสุดเลยอย่างนี้

การกำหนดจักรวาลทั้งหลายว่า​กี่ร้อย กี่พัน หรือกี่แสนจักรวาลย่อมไม่ได้ จริงอยู่แม้ถ้าว่าท้าวมหาพรหมทั้ง ๔ ผู้เกิดในอกนิฏฐภพ (รูปพรหมภูมิชั้นสุทธาวาสชั้นที่ ๕ ซึ่งเป็นรูปพรหมภูมิชั้นสูงที่สุด) ผู้มีความเร็วขนาดที่สามารถผ่านแสนจักรวาลไปได้ ชั่วเวลา​เพียงเท่า​ที่ลูกศรที่เร็วมากของนายขมังธนูผู้มีกำลังแข็งแรง ผ่านเงา​ต้นตาลด้านขวางจะพึงวิ่งมา​ ด้วยความเร็วขนาดนั้น ด้วยคิดว่า​เรา​จักดูขอบแห่งจักรวาล ท้าวมหาพรหมเหล่า​นั้นไม่ทันได้เห็นขอบแห่งจักรวาลก็จะพึงปรินิพพานก่อนโดยแท้ จักรวาลทั้งหลายจึงชื่อว่า​เป็นอนันตะไม่มีที่สิ้นสุดอย่างนี้

ก็ประมาณแห่งสัตว์ที่อยู่ในนํ้า และที่อยู่บนบก ในจักรวาลทั้งหลายว่า มีประมาณเท่า​นี้ ย่อมไม่มี สัตตนิกายจึงชื่อว่า อนันตะ (ไม่มีที่สิ้นสุด) อย่างนี้

พุทธญาณ ชื่อว่า อนันตะแท้แม้กว่า​อนันตะทั้ง ๓ นั้น

อากาศก็เห็นอยู่แล้วว่า​ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถจะวัดว่า​กี่ร้อย กี่พัน กี่แสนโยชน์ หรือแม้จักรวาล ก็ไม่มีใครสามารถจะนับได้ว่า​ทั้งหมดมีเท่าไร ใครอยากจะนับดาว นับจักรวาล ก็ไม่มีวันสำเร็จ เพราะว่า​จักรวาลเป็นอนันตะไม่มีที่สิ้นสุด หรือแม้สัตตนิกาย คือ หมู่สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในจักรวาลก็ไม่มีใครสามารถทำสถิติว่า​มีจำนวนเท่า​ไหร่ ทั้งมนุษย์ ทั้งเทพ ทั้งพรหม ทั้งสัตว์บก สัตว์นํ้า ทั้งสัตว์ในอบาย แต่พุทธญาณชื่อว่า​เป็นอนันตะ คือ ไม่มีที่สิ้นสุดแม้กว่า​อนันตะทั้ง ๓ นั้น คือบรรดา​สัตว์ที่หา​ประมาณมิได้ ในจักรวาลอันหา​ประมาณมิได้ ในอากาศอันหา​ประมาณมิได้ อย่างนี้

เมื่อคิดถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่ในจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว จิตของสัตว์ทั้งหลายเหล่า​นั้นจะวิจิตรต่างๆ กันมากสักเพียงไหน


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
พุทธรักษา
วันที่ 7 ก.ย. 2552

"อากาศ" ก็เห็นอยู่แล้วว่าไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถจะวัด อากาศ ว่ามีกี่ร้อย กี่พัน กี่แสนโยชน์ หรือแม้ "จักรวาล" ก็ไม่มีใครสามารถนับได้ว่าทั้งหมดมีเท่าไร ใครอยากจะนับดาว นับจักรวาล ก็ไม่มีวันสำเร็จ เพราะว่า "จักรวาล" เป็น "อนันตะ" คือ ไม่มีที่สิ้นสุด หรือแม้ "สัตตนิกาย" คือ หมู่สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในจักรวาลก็ไม่ใครสามารถทำสถิติว่ามีจำนวนเท่าไร รวมทั้งมนุษย์ ทั้งเทพ ทั้งพรหม ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ในอบายภูมิ

แต่ "พุทธญาณ" ชื่อว่า "อนันตะ" คือ ไม่มีที่สิ้นสุดแม้กว่าอนันตะทั้ง ๓ ได้แก่ บรรดาสัตว์อันหาประมาณมิได้ จักรวาลอันหาประมาณมิได้ อากาศอันหาประมาณมิได้

เมื่อคิดถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่ในจักรวาลทั้งหลายย่อมมีมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว จิตของสัตว์เหล่านั้นจะวิจิตรต่างๆ กันมากสักเพียงไหน

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ