ความจริงแห่งชีวิต [119] โลกุตตรกุศลจิต เป็นปัจจัยให้ โลกุตตรวิบากจิต เกิด สืบต่อ ทันที

 
พุทธรักษา
วันที่  27 ส.ค. 2552
หมายเลข  13361
อ่าน  1,171

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โลกุตตรกุศลจิต เป็นปัจจัยให้โลกุตตรวิบากจิตเกิดสืบต่อทันทีไม่มีจิตอื่นเกิดคั่นได้เลย กุศลอื่นทั้งหมดไม่สามารถที่จะให้ผลทันที คือ ไม่ทำให้วิบากจิตเกิดสืบต่อจากกุศลจิตได้ทันที แต่โลกุตตรกุศลเป็นปัจจัยให้โลกุตตรวิบากเกิดสืบต่อทันทีโดยไม่มีจิตอื่นคั่น ระหว่างโลกุตตรกุศลจิตซึ่งเป็นเหตุ และโลกุตตรวิบากจิตซึ่งเป็นผลเลย ทันทีที่โสต​า​ปัตติมัคคจิตซึ่งเป็นโลกุตตรกุศลดับ โสต​า​ปัตติผลจิตซึ่งเป็นโลกุตตรวิบากจิตก็เกิดสืบต่อทันที ทันทีที่สกทา​คา​มิมัคคจิตซึ่งเป็นโลกุตตรกุศลดับ สกทา​คา​มิผลจิตซึ่งเป็นโลกุตตรวิบากจิตก็เกิดสืบต่อทันที ทันทีที่อนาคา​มิมัคคจิตซึ่งเป็นโลกุตตรกุศลดับ อนาคา​มิผลจิตซึ่งเป็นโลกุตตรวิบากจิตก็เกิดสืบต่อทันที ทันทีที่อรหัตตมัคคจิตซึ่งเป็นโลกุตตรกุศลดับ อรหัตตผลจิตซึ่งเป็นโลกุตตรวิบากจิตก็เกิดสืบต่อทันที

ฉะนั้น โลกุตตรวิบากจิตทั้ง ๔ จึงไม่ได้ทำปฏิสนธิกิจ ภวังคกิจ และจุติกิจ ไม่เหมือนโลกิยกุศลวิบากและอกุศลวิบาก เมื่อโลกุตตรกุศลจิตดับ โลกุตตรวิบากจิตก็เกิดขึ้นมีนิพพานเป็นอารมณ์ต่อจากโลกุตตรกุศลทันที ฉะนั้น ผลจิตซึ่งเป็นโลกุตตรวิบากจิตนั้น จึงเป็นชวนวิถีจิตเช่นเดียวกับโลกุตตรกุศลจิต ผล​จิต​เป็น​วิบาก​จิต​ประเภท​เดียว​เท่านั้น​ที่​เป็น​ชวน​วิถี​จิต ทำชวน​กิจ​และ​มี​นิพพาน​เป็น​อารมณ์ โลกุตตรกุศลจิตเกิดขึ้นเพียงขณะเดียวในสังสารวัฏฏ์ โดยดับกิเลสเป็นสมุจเฉทตามขั้นของโลกุตตรกุศลจิตนั้นๆ แต่โลกุตตรวิบากจิตที่เกิดต่อจากโลกุตตรกุศลจิตนั้น เกิดดับสืบต่อกันโดยมีนิพพานเป็นอารมณ์อีก ๒ หรือ ๓ ขณะตามประเภทของบุคคล

พระโสดาบันบุคคลยังเกิดอีกอย่างมากไม่เกิน ๗ ชาติ แต่ปฏิสนธิจิตของพระโสดาบันไม่ใช่โสต​า​ปัตติผลจิตทำกิจปฏิสนธิ แล้วแต่ว่า​พระโสดาบันบุคคลนั้นจะเกิดในภูมิใด วิบากจิตระดับภูมินั้นๆ ก็ทำกิจปฏิสนธิในภูมินั้น คือ ถ้า​พระโสดาบันบุคคลนั้นเกิดในสวรรค์ กา​มาวจรวิบากจิตก็ทำกิจปฏิสนธิ ถ้า​พระโสดาบันบุคคลนั้นเกิดในพรหมภูมิใด รูปาวจรวิบากจิต หรืออรูป​าวจรวิบากจิตก็ทำกิจปฏิสนธิในภูมินั้นๆ

ฉะนั้น คำว่า ภูมิ มี ๒ ความหมาย คือ หมายถึงระดับขั้นของจิต ๑ และหมายถึงภูมิซึ่งเป็นที่เกิดของสัตวโลก ๑

ภูมิซึ่งเป็นระดับขั้นของจิตมี ๔ ภูมิ คือ
กา​มาวจรจิต ๑
รูปาวจรจิต ๑
อรูป​าวจรจิต ๑
โลกุตตรจิต ๑

ภูมิซึ่งเป็นที่เกิดของสัตวโลก หมายถึง โอกาสโลกซึ่งเป็นสถานที่เกิดของสัตวโลก มี ๓๑ ภูมิตามระดับขั้นของจิต คือ
กามภูมิ ๑๑ ภูมิ
รูปพรหมภูมิ ๑๖ ภูมิ
อรูปพรหมภูมิ ๔ ภูมิ


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศล แด่คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
สุภาพร
วันที่ 28 ส.ค. 2552

เรียนถามว่า พระโสดาบัน เกิดอีกอย่างน้อยไม่เกิน ๗ ชาติ

ปฏิสนธิในภูมิมนุษย์ได้หรือไม่ค่ะ

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
สุภาพร
วันที่ 31 ส.ค. 2552

กราบเรียนอาจารย์ประเชิญ

ถ้าเช่นนั้น ในภูมิมนุษย์พระอริยบุคคลก็จะมีได้แต่พระโสดาบัน เท่านั้น จะไม่มีพระสกทาคามี หรือ พระอนาคามี หรือคะ

ขอขอบพระคุณค่ะ เหตุที่ถามเพราะเวลาสนทนาธรรมให้ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ ว่าในยุคนี้ไม่มีพระอรหันต์แล้วมีแค่พระอนาคามีบุคคลเท่านั้น จึงยังไม่กระจ่างค่ะ

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prachern.s
วันที่ 31 ส.ค. 2552

เรียนความเห็นที่ 3

ในภูมิมนุษย์สมัยครั้งพุทธกาล มีพระอริยบุคคลทุกประเภท แต่ในยุคต่อๆ มา ผู้ที่บรรลุคุณธรรมเบื้องสูงก็จะค่อยๆ ลดตามยุคสมัยที่เป็นกาลวิบัติ เช่นในยุคนี้ พันปีที่สาม ไม่มีพระอรหันต์ สูงสุดก็มีเพียงพระอนาคามีบุคคลเท่านั้นครับ และในบางยุคที่เสื่อมมากๆ ก็จะไม่มีพระอริยบุคคลเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สุภาพร
วันที่ 1 ก.ย. 2552
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ