สังขารมีอวิชชาเป็นปัจจัยอย่างไร [วิภังค์]

 
JANYAPINPARD
วันที่  4 ส.ค. 2552
หมายเลข  13086
อ่าน  2,440

[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 473

ว่าด้วยสังขารมีอวิชชาเป็นปัจจัยอย่างไร

ถามว่า ก็ข้อนี้ จะพึงทราบได้อย่างไรว่า สังขารทั้งหลายเหล่านั้นย่อมมีเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย

ตอบว่า รู้ได้เพราะความที่อวิชชามีสังขาร จึงมีจริงอยู่ บุคคลใดยังละอัญญาณ (ความไม่รู้) กล่าวคืออวิชชาในสัจจะ ๔ มีทุกข์เป็นต้นไม่ได้ บุคคลนั้นก็ยึดถือสังสารทุกข์ โดยความสำคัญว่าเป็นสุข ด้วยความไม่รู้ธรรมมีขันธ์เป็นอดีตเป็นต้นก่อน แล้วย่อมปรารภสังขาร แม้ทั้ง ๓ (มีปุญญาภิสังขารเป็นต้น) อันเป็นเหตุแห่งสังสารทุกข์นั้น ด้วยความไม่รู้ในทุกขสมุทัย เมื่อเขาสำคัญ ก็ย่อมปรารภสังขารทั้งหลายที่เป็นบริวารของตัณหา แม้เป็นเหตุแห่งทุกข์ โดยความเป็นเหตุแห่งสุข.

อนึ่ง เพราะความที่ไม่รู้ในนิโรธและมรรค บุคคลจึงมีความสำคัญในทุกขนิโรธ (ความดับทุกข์) ในคติพิเศษแม้มิใช่ความดับทุกข์ และมีความสำคัญในพิธีกรรมทั้งหลายมีการบูชายัญ และบำเพ็ญตบะเพื่อให้เป็นเทวดาเป็นต้น แม้มิใช่ทางแห่งความดับทุกข์ ว่าเป็นทางดับทุกข์ เมื่อปรารถนาทุกขนิโรธ (ความดับทุกข์) ก็ย่อมปรารภสังขารแม้ ๓ อย่าง โดยมุ่งหน้าพิธีกรรมมีการบูชายัญ และทำตบะเพื่อความเป็นเทวดา เป็นต้น

อีกอย่างหนึ่ง เพราะบุคคลนั้น ยังไม่ได้ละอวิชชาในสัจจะ ๔ นั้น จึงไม่รู้อยู่ซึ่งทุกข์ กล่าวคือ ผลแห่งบุญแม้ระคนด้วยโทษเป็นอเนก มีชาติ ชรา และมรณะเป็นต้น โดยความเป็นทุกข์พิเศษ ย่อมปรารภปุญญาภิสังขาร อันต่างด้วยกายสังขาร และวจีสังขารเพื่อบรรลุทุกข์นั้น เหมือนผู้ต้องการนางฟ้า (เทพอัปสร) ปราถนาเกิดเป็นเทพบุตรฉะนั้น และเมื่อบุคคลนั้น แม้ไม่เห็นผลบุญนั้น แม้สมมติว่าเป็นสุข ซึ่งถึงความเป็นทุกข์เพราะแปรปรวน อันยังความเร่าร้อนใหญ่ให้เกิดขึ้นในบั้นปลาย และความที่ผลบุญนั้นมีความสำราญน้อย ย่อมปรารภปุญญาภิสังขารมีประการตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ ซึ่งมีผลบุญนั้นเป็นปัจจัย เหมือนตั๊กแตนบ่ายหน้าตกลงสู่เปลวประทีป และเหมือนบุคคล ผู้ติดใจในหยดน้ำผึ้ง ถึงกับเลียคมศัสตราที่เปื้อนน้ำผึ้ง ฉะนั้น

อนึ่ง เมื่อไม่เห็นโทษในธรรมที่มีวิบาก มีการเสพกาม เป็นต้น ย่อมปรารภอปุญญาภิสังขาร แม้เป็นไปด้วยทวาร ๓ เพราะสำคัญว่าเป็นสุข และเพราะความเป็นผู้ถูกกิเลสครอบงำแล้ว ดุจทารกเล่นอยู่ซึ่งคูถอันปฏิกูล ดุจผู้ต้องการตายเคี้ยวกินยาพิษ ฉะนั้น และเมื่อไม่หยั่งรู้ความทุกข์อันมีความแปรปรวนแห่งสังสาร แม้ในวิมานของความเป็นอรูป ก็ย่อมปรารภอาเนญชาภิสังขาร อันเป็นจิตตสังขารโดยวิปลาสมีความเที่ยง เป็นต้น ดุจคนหลงทิศ เริ่มเดินทางมุ่งหน้าไปสู่นครปิศาจ ฉะนั้น. เพราะความที่อวิชชามีอยู่. นั่นแหละสังขารจึงมี มิใช่เพราะความไม่มี ฉะนั้น ข้อนี้จึงทราบได้ว่า สังขารเหล่านี้ย่อมมีเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ด้วยประการฉะนี้ แม้คำนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสไว้ว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเขลาตกอยู่ในอวิชชาแล้ว เพราะความไม้รู้ ย่อมปรุงแต่งปุญญาภิสังขารบ้าง ย่อมปรุงแต่งอุปุญญาภิสังขารบ้าง ย่อมปรุงแต่งอาเนญชาภิสังขารบ้าง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแลภิกษุละอวิชชาเสียแล้ว วิชชาก็เกิดขึ้น เพราะการสำรอกอวิชชา เพราะความเกิดขึ้นแห่งวิชชา ภิกษุนั้นย่อมไม่ปรุงแต่งปุญญาภิสังขาร ดังนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 6 ส.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chainoi
วันที่ 26 พ.ย. 2556

สังขารคืออะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chainoi
วันที่ 27 พ.ย. 2556

"อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข"

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ก.ค. 2563

อ้างอิงจาก ความคิดเห็นที่ 2 โดย chainoi

สังขารคืออะไร

ขอเชิญคลิกอ่าน...

สังขารธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 13 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ