จำเป็นหรือไม่ครับ

 
bom8813
วันที่  14 พ.ค. 2552
หมายเลข  12351
อ่าน  918

จำเป็นหรือไม่ครับ ที่จะต้องประจักษ์แจ้งสภาวะธรรม ตามความเป็นจริงที่ปรากฏ ด้วยปัญญาของเราเองทั้งหมดในอภิธรรมปิฎก (ทั้งหมดไม่มีเหลือเลยนะครับ) ไม่ว่าจะจากการฟังหรือการอ่าน ซึ่งไม่สามารถประมาณเวลาที่ต้องใช้ในการทำความเข้าใจและน้อมนำมาพิจารณายาวนานมากๆ ๆ ๆ ถึงจะมีสิทธิ ประหารกิเลสได้เด็ดขาด ขอบคุณมากครับถ้าจะช่วยให้ความกระจ่าง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 14 พ.ค. 2552
ผู้ที่ประจักษ์แจ้งสภาวธรรมมีปัญญาที่ต่างกันหลายระดับ สำหรับพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงรู้แจ้งสภาวธรรมทั้งหมดไม่มีเหลือ รองลงมาก็คือท่านพระสารีบุตร และพระมหาสาวกผู้อรหันต์ พระอนาคามี ท่านประจักษ์แจ้ง ตามกำลังปัญญาของท่านแต่ไม่เท่าพระอรหันต์ พระสกทาคามี พระโสดาบัน ก็ไม่รอบรู้ทั้งหมดเช่นกัน แต่ที่แสดงไว้ใน พระอภิธรรมปิฎก นั้น เป็นพระปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าดังนั้น ปุถุชนผู้กำลังศึกษาย่อมรู้สภาวธรรมที่กำลังปรากฏตามสมควร ไม่ใช่ทั้งหมดคือสิ่งใดปรากฏก็ศึกษาสิ่งนั้น สิ่งใดที่ไม่ปรากฏก็จะศึกษาไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏ..
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
bom8813
วันที่ 15 พ.ค. 2552
สิ่งใดปรากฏก็ศึกษาสิ่งนั้น สิ่งใดที่ไม่ปรากฏก็จะศึกษาไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏ..

คำตอบนี้เคลียร์มากๆ ครับ ขอบคุณมากครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 15 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 15 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 15 พ.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธรณ์__ภควลีธร
วันที่ 15 พ.ค. 2552

คำว่าอภิ แปลว่ายิ่งใหญ่ อภิธรรมคือธรรมที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นอนัตตา ไม่อยู่ใน

อำนาจบังคับบัญชาของผู้ใด เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรง

เทศนาธรรมทั้งปวงที่ทรงตรัสรู้ พร้อมทั้งเหตุปัจจัยของธรรมทั้งปวงนั้น โดยสภาพ

ความเป็นจริงของธรรมนั้นๆ พระองค์ทรงเคารพธรรมที่ทรงตรัสรู้ พระองค์มิได้ทรง

เทศนาว่าธรรมทั้งปวงอยู่ในอำนาจของพระองค์ แต่ทรงเทศนาว่า พระองค์เองก็ไม่

สามารถบันดาลให้ผู้ใดพ้นทุกข์ หรือบรรลุมรรค ผล นิพพานได้ การประพฤติปฏิบัติ

ธรรมเท่านั้น ที่เป็นปัจจัยให้ผู้ปฏิบัติบรรลุมรรค ผล นิพพาน พ้นทุกข์ได้ ปรมัตถธรรม

หรืออภิธรรมนั้น มิใช่ธรรมที่เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้ เพราะปรมัตถธรรมเป็นธรรมที่มีจริง

ฉะนั้น ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก จึงเป็นการรู้ความจริงของ ปรมัตถธรรม ตามสภาพ

ลักษณะของปรมัตถธรรมนั้นๆ


จากหนังสือ ปรมัตถธรรมสังเขป หน้า ๕

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sam
วันที่ 15 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 16 พ.ค. 2552

เป็นเรื่องของปัญญา ที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ด้วยการเพียรฟัง

เมื่อสภาพธรรมปรากฏ จึงระลึกรู้ตาม เรียกว่ามีสติ

รู้ว่านั่นเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ เป็นธรรม เป็นอนัตตา

เพียรระลึกไปเรื่อยๆ เป็นขั้นๆ ข้ามไม่ได้เลย เช่นนี้ จนกว่าจะถึงความเป็น

อรหันต์

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 16 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 16 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ค. 2552

ต้องเป็นปัญญาตั้งแต่ต้น สภาพของปัญญาคือ รู้ตามความเป็นจริง

ไม่มีอย่างอื่นจะประหารกิเลสได้ ถ้าไม่อบรมปัญญาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
saifon.p
วันที่ 17 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
คุณ
วันที่ 1 มิ.ย. 2552

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
khondeebkk
วันที่ 2 มิ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ