คำพูดพลิกชีวิต


    ท่านอาจารย์ พอพูดถึงเรื่องพูดก็เป็นเรื่องพูด ลืมเรื่องจิต แต่ความจริงลืมไม่ได้เลย เพราะถ้าไม่มีจิต ก็จะไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น คำพูดก็ส่องไปถึงสภาพของจิตด้วย

    อ.คำปั่น คำพูดบางคำทำไมถึงพลิกชีวิตของคนอื่นได้

    ท่านอาจารย์ จิตดีๆ อยู่แท้ๆ คำพูดบางคำของคนอื่นก็ทำให้จิตเศร้าหมองแล้ว พลิกไหมคะ

    อ.คำปั่น พลิกครับ

    ท่านอาจารย์ คำพูดของท่านพระอัสชิ พลิกชีวิตของท่านอุปติสสมาณพหรือเปล่า

    อ.คำปั่น ท่านอุปติสสมาณพได้ฟัง จากปุถุชนก็เป็นพระโสดาบัน

    ท่านอาจารย์ แต่ถ้าคบคนพาล จะได้ยินอะไรคะ จะได้ฟังอะไร คำที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ก็พลิกชีวิตจากการเจริญในธรรม เป็นทางเสื่อม

    อ.อรรณพ แล้ววาจาที่เป็นวาจาสัจจะ จะเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นๆ ได้อย่างไร คงพลิกทันทีไม่ได้

    ท่านอาจารย์ ก่อนที่ท่านจะได้ฟังคำของท่านพระอัสสชิ ถอยไป ท่านต้องค่อยๆ พลิกความเห็นผิดเป็นความเห็นถูก ความไม่เข้าใจเป็นความเข้าใจ จนกระทั่งได้ยินคำที่พร้อมจะเข้าใจ และดับกิเลสได้ เหตุ และผลต้องตรงกัน ถ้าเหตุไม่พอจะให้ผลอย่างนั้นเกิดก็ไม่ได้ แต่เมื่อเหตุสมควรแล้วที่จะให้ผลอย่างนั้นเกิด จะไม่ให้ผลนั้นเกิดก็ไม่ได้

    อ.อรรณพ บางท่านจะเรียกว่า พลิกได้เร็วก็มีนะครับ

    ท่านอาจารย์ พลิกได้เร็วเพราะอะไร ทำไมคนอื่นพลิกได้เร็ว แล้วคนอื่นพลิกไม่ได้

    อ.อรรณพ เพราะสะสมมา

    ท่านอาจารย์ ต้องมีความแข็งแรงพอที่จะพลิกได้ ถ้าเป็นคนเจ็บนอนป่วย พอให้พลิก พลิกไม่ได้แน่ แล้วเดี๋ยวนี้เป็นใคร รักษาโรคบ้างหรือยัง แข็งแรงขึ้นไหม

    อ.อรรณพ ยากที่จะพลิกจริงๆ

    ท่านอาจารย์ ทุกคำที่ดีอยู่ในพระไตรปิฎก ไม่ต้องไปหาที่อื่นเลย ทุกคำ แต่ต้องเข้าใจจริงๆ

    ได้สนทนากับผู้ฟังท่านหนึ่ง ซึ่งร่วมเดินทางไปอินเดียด้วย ท่านเล่าให้ฟังว่า ก่อนคุณแม่ และท่านจะไปอินเดียคราวนี้ ท่านเปิดวิทยุฟังธรรม คุณแม่ก็ไม่ฟังเลย ไม่อยากจะฟังด้วย อยากจะให้ปิด แต่หลังกลับจากอินเดียแล้ว ท่านก็บอกลูกให้เปิดธรรมให้ฟัง พลิกไหมคะ ค่อยๆ พลิก คือจากไม่ฟังเป็นฟัง ใครที่ไปพม่าคราวนี้ก็ได้ฟังจากท่านผู้หนึ่ง ท่านบินกลับมาจากนอร์เวย์ บินไปพัทยา เพื่อนก็ไปรับที่สนามบินเพื่อขับรถไปพัทยา ระหว่างทางก็เปิดธรรม ท่านก็ฟังไม่รู้เรื่อง ฟังอะไรก็ไม่รู้ เพื่อนก็บอกว่าฟังไปเถอะ พอไปถึงท่านก็ทราบว่า ชมรมบ้านธรรมจะไปพม่า เพื่อนก็ถามว่าจะไปไหม ท่านก็บอกว่าไป แล้วท่านก็มีโอกาสฟังธรรมที่พม่าด้วย ตอนที่กำลังล่องแม่น้ำอิระวดี ก็เป็นโอกาสได้สนทนาธรรมกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ และต่อจากนั้นก็มีโอกาสสนทนาธรรมอีก ซึ่งก่อนหน้านั้นท่านไม่เคยฟังเลย ไม่รู้จักชมรมบ้านธรรม ไม่รู้จักมูลนิธิ และท่านก็เป็นคนสุดท้ายที่ร่วมเดินทาง ก็เป็นแต่ละชีวิตจริงๆ ที่จะเห็นการสะสมมา แล้วใครจะรู้ว่า วันไหนชีวิตจะเปลี่ยนไปจากการได้ฟังอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แล้วเป็นการฟังรู้เรื่อง และเข้าใจขึ้น


    หมายเลข 9808
    19 ก.พ. 2567