สภาพธรรมเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ เหมือนเห็นกับได้ยินใช่ไหม
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์
ผู้ฟัง แต่จากการศึกษาไม่ทราบว่าจะพอมีประโยชน์ไหมถ้าเราคิดย้อน กลับไป
ท่านอาจารย์ ในครั้งพุทธกาลไม่มีใครสักคนที่ไปกราบทูลถามว่านี่เป็นโลภะหรือเปล่า นี่เป็นโทสะหรือเปล่า นั่นเป็นยังไง นี่เป็นยังไง แต่ทรงแสดงพระธรรมเพื่อให้คนฟังเกิดเป็นปัญญาของตนเอง แต่ไม่ใช่ไปทูลถามเพื่อให้ตรัสบอกโดยที่ว่าไม่ทำให้คนๆ นั้นเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าใครเพียงจะตอบ แล้วเราก็ไปตามแนวความคิดของคนอื่น แต่ว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เริ่มพิจารณาทุกคำในความหมายที่เป็นความจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นความจริงแล้วเรามีความเข้าใจในความจริง ขณะนั้นก็ไม่ใช่เรา เป็นความเห็นถูกตามความเป็นจริง ขณะนั้นก็เป็นปัญญา
เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตซึ่งจะติดตามไปได้ที่มีประโยชน์สูงสุดคือปัญญา ความเห็นถูกความเข้าใจถูก เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาอาจจะมีทรัพย์สมบัติ มีรูปสมบัติ มียศ มีบริวาร มีทุกอย่าง แต่ไม่มีปัญญา เพราะฉะนั้นทรัพย์สมบัติตามไปได้ไหม รูปสมบัติก็ตามไปไม่ได้ บริวารสมบัติ ทุกอย่างอื่นก็ตามไปไม่ได้ แต่ปัญญาสามารถที่จะสะสมสืบต่อในจิตที่จะทำให้มีโอกาสได้ยินได้ฟัง และก็เกิดความเห็นถูกขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ไม่ใช่การที่เราจะพยายามรับฟังว่าใช่ ไม่ใช่ หรือว่าเป็นอะไร แต่ว่าที่ได้ฟัง พิจารณาว่าถูกต้องไหม
เช่น สภาพธรรมซึ่งเราอาจจะคิดว่าเกิดดับด้วยกันได้ เช่นโลภะกับโทสะ หรือว่ามานะกับโทสะ แต่ความจริงเป็นไปไม่ได้เลย เหมือนเห็นกับได้ยินขณะนี้ ถ้าไม่รู้ก็จะบอกว่าพร้อมกัน แต่ถ้ารู้ก็จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดพร้อมกัน
ที่มา ...