วิปัสสนาญาณจะเกิดที่ไหนก็ได้


    สำหรับผู้ที่ยังเป็นห่วงเรื่องของสถานที่ ท่านมีความผูกพันว่าจะต้องสงบ ก็ขอให้ท่านพิจารณาโดยทั่วๆ ไปว่า การที่บุคคลไปสู่ห้องปฏิบัติ ขอให้ท่านถามความจริงใจของบุคคลผู้ที่ไปสู่ห้องปฏิบัติว่า มีความพอใจจริงๆ หรือที่จะมีชีวิตอย่างนั้น เป็นฉันทะ เป็นความพอใจจริงๆ หรือปล่าที่จะมีชีวิตอย่างนั้น ไม่ออกไปไหน ไม่ทำอะไร นั่นเป็นชีวิตจริงๆ หรือเปล่า เป็นปกติหรือเปล่า

    ซึ่งท่านก็ทราบว่า ฆราวาสเป็นผู้ที่มีเรือน มีมิตรสหาย มีญาติพี่น้อง มีธุรกิจการงาน เป็นเรื่องของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่ท่านยังตัดไม่ขาด ยังมีเยื่อใยอยู่ เป็นชีวิตจริงๆ เป็นความพอใจจริงๆ ที่จะมีชีวิตดำเนินไปในลักษณะตามแบบของฆราวาส

    เพราะฉะนั้น ไม่มีท่านผู้หนึ่งผู้ใดจะไปอยู่ในห้องอย่างนั้นโดยที่ว่าเป็นชีวิตจริงๆ แต่ไปด้วยความหวังว่าจะได้วิปัสสนาญาณ คิดว่าการเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวันอย่างนี้วิปัสสนาญาณเกิดไม่ได้ แต่ท่านไม่ทราบความหมายของคำว่าญาณ คำว่ารู้แจ้ง คำว่าแทงตลอด เป็นอริยสัจธรรม ที่สามารถจะรู้ชัด รู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติ เพราะเป็นปัญญาที่ได้อบรมสะสมแล้ว

    วิปัสสนาญาณจะเกิดขึ้นเมื่อเหตุสมควรแก่ผล คือ ปัญญาที่อบรมรู้ชัดในสภาพที่เป็นนามธรรม ในสภาพที่เป็นรูปธรรม แต่ละลักษณะไม่ปะปนกัน เมื่อไม่ปะปนกัน ก็ไม่มีความยึดถือรวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน เมื่อมีความรู้ชัดแล้ว ปัญญาที่อบรม เจริญสติบ่อยๆ เนืองๆ พิจารณาสภาพธรรม คือ นามธรรมและรูปธรรมที่เกิดปรากฏเป็นปกติในชีวิตประจำวัน จนรู้ทั่วจริงๆ ทำให้ละคลาย สามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามใดที่ไหนก็ได้ รูปใดที่ไหนก็ได้ ด้วยความชำนาญ ด้วยความรู้ที่ได้อบรมจนกระทั่งสติสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามรูปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจได้ และปัญญาสามารถรู้แจ้งในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน ในลักษณะของธรรมที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป

    เพราะฉะนั้น วิปัสสนาญาณจะเกิดที่ไหนก็ได้ เมื่อไรก็ได้ตามควรแก่เหตุ แต่ไม่ใช่ว่า ท่านไปสู่ห้องปฏิบัติด้วยความหวัง ถ้าท่านไม่หวังวิปัสสนาญาณ ท่านจะไปไหม ขณะนี้ชีวิตปกติของท่านเป็นอย่างไร ท่านก็จะต้องอบรมปัญญาให้รู้ชัดในสภาพนั้นๆ ตามความเป็นจริง แต่ถ้าท่านมีความเข้าใจผิด ท่านไปเพราะคิดว่าปกติธรรมดาชีวิตประจำวันวิปัสสนาญาณเกิดไม่ได้ ท่านจึงได้ไป หวังวิปัสสนาญาณหรือเปล่า คงจะหวังแน่นอนจึงได้ไป แต่ท่านก็ไม่ทราบความหมายของวิปัสสนาญาณว่า วิปัสสนาญาณนั้นเป็นปัญญาที่รู้อะไร เกิดพร้อมอะไร ในขณะไหน ตามความเป็นจริงอย่างไร

    เพราะฉะนั้น ท่านไม่ได้อบรมเหตุ คือ ปัญญาที่จะรู้สภาพธรรมที่เกิดปรากฏตามปกติเพราะเหตุปัจจัยตามความเป็นจริง เมื่อท่านไม่เจริญเหตุให้สมควรแก่ผล วิปัสสนาญาณจะเกิดได้ไหม ไปด้วยความหวัง และไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ถึงจะหวัง รอสักเท่าไร วิปัสสนาญาณก็เกิดไม่ได้ เพราะเหตุว่าชีวิตจริงๆ ของท่าน ท่านไม่ได้มีความพอใจที่จะอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าท่านผู้ใดมีความพอใจจริงๆ จะอยู่อย่างนั้นตลอดปี ตลอดทุกๆ ปี เป็นชีวิตปกติประจำวันของท่าน ท่านจะเจริญสติปัฏฐานหรือไม่เจริญสติปัฏฐาน ท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้นเป็นปกติของท่าน แต่ไม่ใช่ว่า ไปเพราะหวัง คิดว่าจะได้วิปัสสนาญาณเวลาที่ไปสู่ห้องกัมมัฏฐาน [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 239]


    หมายเลข 9544
    24 ต.ค. 2568