ปัญญาเจตสิก
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ตัวปัญญาเป็นความเข้าใจถูก ความเห็นถูก
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ขณะที่มีปัญญา ขณะนั้นต้องมีสติ แล้วแต่ว่าจะเป็นระดับไหน เพราะฉะนั้นขณะที่กำลังฟังเข้าใจ มีวิตกเจตสิก มีวิจารเจตสิก มีเวทนาเจตสิก สัญญาเจตสิก มากมาย แต่ไม่รู้เลย จะรู้ได้ก็ทีละลักษณะ
เพราะฉะนั้นขณะที่กำลังเข้าใจ จากการฟัง ก็มีความข้าใจเรื่องราว ที่ได้ยินได้ฟัง แต่เป็นเรื่องราวของสภาพธรรมที่มีจริง เพราะฉะนั้น ขณะนั้น ถ้าไม่มีสติ จะไม่มีการเข้าใจเรื่องราวหรือสิ่งที่ได้ยินได้ฟังเลย เพราะฉะนั้น จะมีคนที่บอกว่า ฟัง แต่ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ขณะที่ไม่เข้าใจ คือขณะนั้น ไม่มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วย แต่ขณะใด ที่มีปัญญาเข้าใจ ขณะนั้น เพราะมีสติ และโสภณเจตสิกอื่นเกิดร่วมด้วย นี่ก็เป็นการศึกษาที่จะทำให้เห็นสติขั้นต่างๆ
ขั้นทาน เกิดขึ้นเพราะอุปนิสัยที่สะสมมา เป็นทานุปนิสัย โดยที่ไม่ได้ฟังธรรมเลย ไม่เข้าใจเลย แต่การสะสมอาสยะฝ่ายดี ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดการให้ มีการระลึกเป็นไปในการให้ขึ้น
ที่มา ...