เกิดเพราะกรรมจึงชื่อว่ามีชีวิต


    กฤษณา   ทีนี้อยากจะเรียนถามท่านอาจารย์สุจินต์ว่า ผู้ที่มีความประสงค์จะมาเกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหม ไม่ทราบว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรถึงจะปรารถนามาเกิดในภูมินี้

    ส.   ผู้ที่เจริญฌานทั้งหมดเป็นผู้ที่เห็นโทษของอกุศล แล้วก็กุศลที่เกิดขึ้นที่เป็นกามาวจรกุศลเล็กน้อยมาก สั้นมาก เพราะฉะนั้นท่านที่เห็นโทษจริงๆ ก็อบรมความสงบของจิตจนกระทั่งตั้งมั่นเป็นอัปปนาสมาธิ แล้วสำหรับการที่จะเกิดโดยที่มีแต่รูป ไม่มีนามเลย ผู้นั้นก็จะต้องเป็นผู้ที่เห็นโทษว่า จริงๆแล้วสุขทุกข์ไม่ใช่รูปเลย รูปจะไม่สุขไม่ทุกข์เลย เพราะฉะนั้นสภาพที่เป็นสุขเป็นทุกข์ต้องเป็นนามธรรม คือ จิตและเจตสิกเท่านั้น

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า  ถ้าสามารถที่จะเข้าใจความต่างกันของนามธรรมกับรูปธรรมจริงๆ ก็จะเห็นได้ว่า รูปไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ว่ารูปที่ไหนทั้งหมด รูปที่ตัวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก็ไม่ใช่สภาพรู้ เพราะฉะนั้นสุขทุกข์ไม่ใช่รูปแน่ ถ้าไม่มีจิต ไม่มีเจตสิก มีแต่รูป ไม่มีสุขไม่มีทุกข์แน่นอน

    เพราะฉะนั้นท่านเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะดับภพชาติ ไม่สามารถที่จะดับกิเลส เพราะเหตุว่าไม่ได้อบรมเจริญปัญญาที่รู้ลักษณะว่า ไม่ใช่ตัวตนของนามธรรมและรูปธรรม เพียงสามารถที่จะมีจิตสงบมั่นคงถึงขั้นปัญจมฌาน เพราะฉะนั้นปรารถนาที่จะไม่มีนามธรรม มีแต่รูปธรรม

    กฤษณา   ทีนี้โดยทั่วๆไป เราจะเข้าใจว่า สัตว์ที่มีชีวิตจะต้องมีทั้งรูปธรรมและนามธรรมถึงจะมีชีวิต แต่ว่าสำหรับอสัญญสัตตาพรหม เขาไม่มีนามธรรมจะเรียกว่าเขามีชีวิตได้ไหม

    ส.   เข้าใจอย่างนั้นก็ผิดที่คิดว่า สัตว์จะต้อง

    กฤษณา   ที่เรียกว่ามีชีวิตจะต้องมีทั้งรูปธรรมและนามธรรม

    ส.   อันนี้เข้าใจผิด

    กฤษณา   แล้วที่ถูกคืออย่างไร

    ส.   คือต้องเกิดเพราะกรรม

    กฤษณา   ต้องเกิดเพราะกรรม

    ส.   จึงจะเป็นสัตว์

    กฤษณา   จึงจะเป็นสัตว์ที่มีชีวิตต้องเกิดเพราะกรรม

    ส.   ต้องมีกรรมเป็นปัจจัย อย่างต้นไม้ มีแต่รูป ไม่ได้เกิดเพราะกรรม เพราะฉะนั้นไม่มีชีวิต

    เสกสรร   กราบเรียนถาม อสัญญตตาพรหมบุคคลไม่มีจิต ไม่มีเจตสิก ซึ่งความจริงแล้วน่าจะไม่มีปัจจัยที่จะทำให้ต้องย้อนมาเกิดอีก น่าจะอยู่ในสภาวะนั้นตลอดไปเหมือนกับรูปอื่นๆ แต่ว่าทำไมเมื่อ

    ส.   ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น จึงจะไม่มีการเกิด ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ไม่ว่าจะโดยอำนาจหรือกำลังของฌาน หรืออะไรก็ตาม ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้หมดสิ้น เพราะฉะนั้นยังต้องเกิด

    เสกสรร   หมายความว่าต้องดับอวิชชาก่อนเท่านั้น


    หมายเลข 9000
    13 ก.ย. 2558