จะอยู่อย่างไร


    ยากที่สุดค่ะ ฟังได้ เข้าใจได้ แต่การที่จะประจักษ์ความจริงของสภาพธรรมขณะนี้ ไม่ใช่อยากจะรู้ก็รู้ได้ แต่ต้องเป็นเรื่องละความไม่รู้ เพราะฉะนั้นขณะนี้มีเห็น ยังไม่ได้เห็นว่า เห็นเป็นทุกขสัจจะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป และได้ยิน รู้หรือยังว่าเป็นทุกขสัจจะ เกิดขึ้นแล้วดับไป

    เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ฟังเพื่อเข้าใจ ชีวิตจะเหลืออีกเท่าไร ใครบอกได้คะ เพราะฉะนั้นจะอยู่อย่างไร อย่างไรก็ต้องอยู่ เพราะว่ายังไม่จากโลกนี้ไป แล้วจะอยู่อย่างไรที่ประเสริฐที่สุด คือ อยู่เพื่อเข้าใจธรรม เพราะอย่างไรๆ ทุกคนตายไม่ได้ ถ้าไม่ถึงกาลที่กรรมจะทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ จะอยู่แบบไหน อยู่อย่างไรก็แล้วแต่กรรมที่ทำให้ต้องเห็น ต้องได้ยิน และเวลาที่มีการเห็น การได้ยินแต่ละครั้ง กิเลสหรือกุศลก็ตามที่สะสมอยู่ในจิต ไม่ได้ออกไปจากจิตเลย ถึงเวลาที่จะออกหลังจากที่เห็นแล้ว จะเป็นกุศลหรืออกุศล

    เพราะฉะนั้นแต่ละคนให้รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง และเป็นผู้ไม่ประมาทเลยที่จะรู้ว่า ความไม่รู้มีมาก จึงทำให้มีอกุศลมาก และกุศลที่สะสมมาที่ประกอบด้วยปัญญามีมากหรือมีน้อย อย่างตัวอย่างของพระสูตร ท่านเหล่านั้นได้ฟังพระธรรมแล้ว เป็นอย่างไรคะ ถึงความเป็นพระอรหันต์ แล้วเราก็ฟัง แต่ยังไม่ถึงแม้การเป็นพระโสดาบัน ถ้าไม่ได้เข้าใจสภาพธรรมอย่างมั่นคง และรู้จริงๆ ว่า แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่เราเคยเข้าใจว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง ความจริงเพียงปรากฏ แค่นี้ค่ะ แต่เวลานี้ไม่ได้เพียงปรากฏเลยค่ะ เป็นคนนั้น เป็นคนนี้ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ปรากฏ

    เพราะฉะนั้นกว่าจะถึงความเข้าใจที่มั่นคงขึ้นว่า เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏในขณะที่กำลังปรากฏด้วย แต่ในขณะที่กำลังคิดเรื่องราวต่างๆ สิ่งต่างๆ ไม่ได้ปรากฏเลย แต่ว่ามีความจำ และยึดถือ และเกิดอกุศลประเภทต่างๆ หรือกุศลประเภทต่างๆ ก็ตามเหตุตามปัจจัยที่ได้สะสมมา ถ้าสะสมความเห็นถูก ความเข้าใจถูก จะถึงวันที่ได้ฟังพระธรรม และเป็นพระอรหันต์ได้ไหมคะ

    ก็ได้

    เพราะฉะนั้นไม่ใช่ใครก็ตามเพียงอ่าน และคิดว่าง่ายจริงๆ แค่ฟังพระธรรมก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ แต่ความจริงเป็นเรื่องของปัญญาทั้งหมด กว่าที่จะค่อยๆ ผันมาสู่ หรือน้อมมาสู่การเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏจริงๆ ได้

    สัมมาสังกัปปะ หลังจากที่มีสัมมาทิฏฐิที่มั่นคง ก็จะทำให้ขณะใดที่กำลังกล่าวถึงสิ่งใด สิ่งนั้นมีจริง และเริ่มเข้าใจความจริงตามที่ได้ฟังว่า สิ่งนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ

    นี่คือการสะสมปัจจัยที่จะทำให้มีความเข้าใจที่จะละความไม่รู้ และความติดข้อง


    หมายเลข 8466
    18 ก.พ. 2567