ทรงแสดงจิตโดยนัยอสังขาร - สสังขารเพื่อประโยชน์อะไร


    ถาม   มันต่างกันตรงที่ลังเลหรือครับ ตัวอย่างเมื่อกี้ที่ผมยกตัวอย่างที่ว่า เห็นรถยนต์สวย แล้วก็อยากได้ ทีนี้ถ้าเห็นครั้งแรกอยากได้ แต่เงินของเราก็ยังไม่พอ อย่างนี้ก็เป็นสสังขาร

    ส.   ถ้ามีกำลังอ่อน เพราะฉะนั้นแทนที่จะคิดถึงว่า มีใครมาชวนหรือเปล่านี่ นั่นเป็นเหตุภายนอก ไม่ต้องคำนึงถึง การอบรมเจริญสติปัฏฐานจะทำให้รู้ลักษณะของสภาพธรรมซึ่งเป็นจิตตานุปัสสนา ตรงลักษณะที่กำลังปรากฏ การที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงจิตโดยประเภทของอสังขารและสสังขาร ควรที่จะได้ทราบว่าเพื่อประโยชน์อะไร การศึกษาธรรมไม่ว่าจะเป็นพระวินัย พระสูตร หรือพระอภิธรรม เพื่อประโยชน์อะไร

    การศึกษาเรื่องของจิต เจตสิก รูป เพื่อประโยชน์อะไร การรู้ว่าจิตเป็นอสังขารบ้าง สสังขารบ้าง เพื่อประโยชน์อะไร ประโยชน์สูงที่สุด ก็เพื่อที่จะให้สติเกิด ระลึกรู้ลักษณะสภาพของจิตในขณะนั้นที่มีลักษณะสภาพอย่างนั้น และรู้ว่าเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป

    เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของการที่จะศึกษาเรื่องของธรรมโดยละเอียด ก็อย่าลืม เพื่อเกื้อกูลอนุเคราะห์ให้สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ซึ่งในเรื่องของสสังขารและอสังขารก็เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานหมวดหนึ่ง

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตประเภทใดๆ อยู่ในจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานหมวดหนึ่งหมวดใด ก็แสดงว่าประโยชน์ที่ทรงแสดงนั้นเพื่อให้เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า ถึงจิตเป็นอสังขาร ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน  หรือถึงจิตจะเป็นสสังขาร มีกำลังอ่อน ในขณะนั้นก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน


    หมายเลข 7364
    21 ส.ค. 2558