อนันตะ ๔ -- พุทธญาณเป็นอนันตะ ๑


    อนันตะที่ ๔ คือ พุทธญาณ

    พุทธญาณ ชื่อว่า เป็น “อนันตะ” แท้ แม้กว่าอนันตะทั้ง ๓ นั้น

    อากาศก็เห็นอยู่แล้วว่า ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถที่จะไปวัดว่า กี่ร้อย กี่พัน กี่แสนโยชน์ หรือจักรวาลก็ไม่มีใครสามารถจะนับได้ว่า ทั้งหมดมีเท่าไร หรือว่าสัตตนิกาย คือ หมู่สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในจักรวาล ก็ไม่มีใครสามารถที่จะไปทำสถิติเอาไว้ว่า มีจำนวนเท่าไร ทั้งเทพ ทั้งพรหม ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ ทั้งมนุษย์ ทั้งสัตว์ในอบาย แต่ว่า “พุทธญาณ” ชื่อว่า เป็น “อนันตะ” คือ ไม่มีที่สิ้นสุด แม้กว่าอนันตะทั้ง ๓ นั้น

    บรรดาสัตว์หาประมาณมิได้ในจักรวาล อันหาประมาณมิได้อย่างนี้ (เมื่อคิดถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่ในจักรวาลว่า มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นจิตของสัตว์แต่ละบุคลจะมากมายสักแค่ไหน) กุศลจิตที่เป็นกามาวจร สหรคตด้วยโสมนัส คือ เกิดพร้อมกับโสมนัส เป็นญาณสัมปยุต์ เป็นอสังขาริก คือ เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยเครื่องชักจูง ย่อมเกิดแก่สัตว์หนึ่งๆ มากมาย แม้สัตว์มีจำนวนมาก จิตก็เกิดขึ้นมากดวง

    กุศลจิตไม่ใช่มีดวงเดียว คนหนึ่งจิตเกิดขึ้นขณะหนึ่งจริง แต่ไม่รู้ว่าจะมีจิตมากมายสักเท่าไรซึ่งนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นกุศลจิตที่เกิด แม้โดยประเภทที่เป็นกามาวจรกุศล ซึ่งเกิดพร้อมกับปัญญา คือ เป็นญาณสัมปยุตต์ แล้วก็เป็นอสังขาริก คือ มีกำลังแรงกล้า แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะดวงเดียวอย่างเดียว ต้องเป็นไปต่างๆ ตามจำนวนของสัตว์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นจิตก็เกิดขึ้นมากดวง

    แต่กุศลจิตแม้ทั้งปวงเหล่านั้น เป็นอย่างเดียวกัน โดยอรรถว่า เป็นกามาวจร โดยอรรถว่า เกิดพร้อมกับโสมนัส โดยอรรถว่า เป็นญาณสัมปยุตต์ และโดยอรรถว่า เป็นอสังขาริก คือ เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยเครื่องชักจูงด้วยกัน

    พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดกามาวจรกุศลจิตแม้ทั้งปวง ที่เกิดกับสัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ในจักรวาลทั้งหลาย หาประมาณมิได้อย่างนี้ ด้วยสัพพัญญุตญาณ ดุจว่าทรงชั่งด้วยตราชั่งใหญ่ ประดุจทรงใส่ในทะนานนับอยู่ฉะนั้นแล้ว และทรงกระทำให้เป็น ๘ ดวงพอดี โดยอรรถที่บัณฑิตพึงเห็นพ้องด้วย คือ คัดค้านไม่ได้

    แสดงว่าถึงแม้ว่ากุศลจิตจะมีมากที่เป็นกามาวจร แต่ว่าพระผู้มีพระภาคก็ทรงนับและทรงจัดกุศลที่เป็นกามาวจร เป็นมหากุศลนั้นมี ๘ ดวง หรือ ๘ ประเภท ซึ่งใครๆก็ไม่สามารถจะคัดค้านได้ เพราะว่าโดยความต่างกันของเวทนา ที่เป็นอุเบกขาและโสมนัส โดยความต่างกันที่ประกอบด้วยปัญญาและไม่มีประกอบด้วยปัญญา โดยความต่างกันที่เป็นอสังขารและสสังขาร

    มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะในเรื่องนี้ ชีวิตประจำวัน


    หมายเลข 7362
    21 ส.ค. 2558