ทำไมจิตถึงมี ๔ ชาติ


    ท่านอาจารย์ น่าสงสัยไหมคะว่า ทำไมจิตจึงมี ๔ ชาติ ไม่ใช่ ๕ ชาติ เพราะมีจิตที่เป็นกุศลชาติ ๑ อกุศลชาติ ๑ วิบากชาติเดียวนะคะ แล้วก็กิริยาอีก ๑ ชาติ เป็น ๔ ชาติ

    บางท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่มี ๕ ชาติ ในเมื่อเหตุมี ๒ คือ ชาติกุศลเป็นเหตุหนึ่ง ชาติอกุศลเป็นเหตุหนึ่ง เพราะฉะนั้นชาติวิบากก็ควรจะมี ๒ ด้วย คือ มีอกุศลวิบาก ชาติหนึ่ง กุศลวิบากชาติหนึ่ง แต่ตามความเป็นจริง ที่จิตมี ๔ ชาติ ก็เพราะเหตุว่า สำหรับวิบากจิตเอง ไม่ชื่อว่า เป็นธรรมชาติเลว ปานกลาง หรือประณีต

    สำหรับจิตที่เป็นกุศลและอกุศลนี้ ต่อไปจะทราบว่า มีประเภทต่าง ๆ มากมาย เช่น ต่างกันโดยกรรม กรรมทางตาก็มี กรรมทางหูก็มี ทางจมูกก็มี ทางลิ้นก็มี ทางกายก็มี ทางใจก็มี  ต่างกันโดยความเป็นขั้นทาน ก็มี ต่างกันโดยความเป็นขั้นศีล ก็มี ต่างกันโดยความเป็นขั้นการอบรมเจริญปัญญา เช่นขั้นที่ฟังธรรม ขั้นแสดงธรรม ขั้นอบรมเจริญปัญญาที่เป็นสมถะและสติปัฏฐานเป็นวิปัสสนา  ก็มี และยังต่างกันโดยทวาร เช่น กระทำโดยกาย หรือว่ากระทำโดยวาจา หรือว่ากระทำโดยใจ และยังต่างกันโดยอธิบดี คือ สัมปยุตตธรรม หรือเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยต่างๆ

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ธรรมชาติที่เป็นเหตุ คือ กุศลและอกุศลมีประเภทต่าง ๆ มากมายทีเดียว แต่ว่าความต่างทั้งหลายเหล่านั้นไม่มีในวิบากจิต ที่จะให้ประกอบด้วยทาน ศีล เป็นบุญกิริยาวัตถุต่าง ๆ ไม่ได้  เพราะเหตุว่าวิบากเป็นธรรมที่ไม่มีวิบาก วิบากเองเป็นเพียงผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว ซึ่งมีโอกาสปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นรู้อารมณ์ต่าง ๆ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย  นั่นเป็นผลของกรรม ตัววิบากเองเป็นผลของกรรม ซึ่งไม่มีวิบาก เพราะเหตุว่าวิบากไม่ทำให้เกิดวิบาก

    ขณะเห็นในขณะนี้เป็นวิบากจิต เกิดแล้วเพราะอดีตกรรมเป็นปัจจัย แต่การเห็นจะไปทำให้เกิดวิบากอีก ให้เกิดการเห็นอีกไม่ได้

    ขณะที่กำลังได้ยิน ขณะที่กำลังรู้เสียง เป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรมที่ทำให้เกิดการได้ยิน แต่ว่าโสตวิญญาณจิตที่ได้ยินเสียง จะทำให้เกิดวิบากข้างหน้าไม่ได้

    เพราะฉะนั้นวิบากไม่ทำให้เกิดวิบาก และไม่สามารถที่จะยังกายวาจาให้เกิด ไม่ประกอบด้วยธรรม เช่น กรุณา มุทิตา หรือวิรตี ซึ่งเป็นสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะไม่ได้

    เพราะฉะนั้นวิบากเองไม่ชื่อว่า เป็นธรรมชาติที่เลว ธรรมชาติที่ปานกลาง ธรรมชาติที่ประณีต แต่ว่าวิบากแห่งกรรมเลวจัดเป็นเลว วิบากแห่งกรรมปานกลาง จัดเป็นปานกลาง วิบากแห่งกรรมประณีตจัดเป็นประณีต

    เพราะฉะนั้นวิบากก็เป็นแต่เพียงธรรมซึ่งเป็นผลของเหตุ ที่เป็นกุศลหรืออกุศล แต่ตัววิบากเองไม่ชื่อว่า เป็นธรรมชาติเลว ปานกลาง ประณีต และไม่เป็นเหตุที่จะให้เกิดวิบาก


    หมายเลข 6963
    24 ส.ค. 2558