คำถามเกี่ยวกับผัสสเจตสิก


    ถาม   ผัสสเจตสิกไม่มีโอกาสที่จะพิจารณาหรือรู้เลยว่า เป็นผัสสะ แต่ว่าเจตสิกดวงอื่น ๆ ยังพอจะเข้าใจ จะเป็นเมตตา หรือหิริโอตตัปปะ เราก็พอจะรู้ พอที่จะเข้าใจว่าเป็นเจตสิก เพราะว่าสังเกตได้ แต่ผัสสะ ผมไม่มีทางที่จะรู้ นอกจากจะคิดเอาว่า เป็นผัสสะ ประการแรกนะครับ

    ส.   โสตปสาทรูป เป็นรูปที่มีลักษณะพิเศษที่กระทบเสียง ถ้าไม่มีรูปนี้ เสียงย่อมปรากฏไม่ได้ ถูกไหมคะ ถูกครับ

    โดยเหตุผลนะคะ เสียงไม่ใช่โสตปสาทรูป โสตปสาทรูปเป็นรูปที่รับกระทบเฉพาะเสียงเท่านั้น แต่ไม่มีการได้ยินอยู่ตลอดเวลา บางทีคนหนึ่งได้ยิน แต่อีกหลายคนไม่ได้ยิน หรือว่าบางทีหลายคนได้ยิน แต่คนหนึ่งไม่ได้ยิน แม้ว่าจะนั่งอยู่ด้วยกัน ทั้งนี้เพราะเหตุว่าในขณะใดที่ผัสสะกระทบกับเสียงเท่านั้น โสตวิญญาณจิตที่เกิดกับผัสสะนั้นจึงรู้เสียงที่ผัสสะกระทบ ถ้าผัสสะไม่กระทบเสียง โสตวิญญาณก็เกิดขึ้นได้ยินเสียงไม่ได้  เพราะฉะนั้นจะต้องมีสภาพนามธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดพร้อมจิตที่กำลังรู้เสียง และนามธรรมนั้นเป็นสภาพที่กระทบเสียง จิตจึงเกิดขึ้นรู้เสียงในขณะนั้น พร้อมกับเจตสิกที่กระทบเสียงนั้น

    ผู้ฟัง    ก็ต้องคิดเหตุผลอยู่ดี เพราะสมมติว่าเสียงวิทยุเกิดขึ้นตลอดเวลา ปสาทรูปเราก็มีอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คลื่นเสียงหรือเสียงนั้นมากระทบกับปสาทรูปของเราอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าเราได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง ใช่ไหมครับ

    ส.   ขณะนี้ผัสสะกำลังกระทบใช่ไหมคะ เวลาที่มีเสียงปรากฏ ถ้าผัสสะไม่กระทบ เสียงปรากฏไม่ได้เลย จะมีการได้ยินเสียงไม่ได้เลย

    ผู้ฟัง    ครับ ก็คงจะต้องคิดเอาอีกล่ะครับ อาจารย์ เพราะไม่มีทางที่จะพิจารณาได้เหมือนเจตสิกตัวอื่น ๆ

    ส.   การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่ไปพยายามรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏ เวลาที่เสียงปรากฏ สติสามารถจะระลึกรู้ลักษณะของเสียง หรือน้อมรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่รู้เสียง เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีสภาพที่รู้เสียง เสียงนั้นปรากฏไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าไปนึกถึงผัสสเจตสิก

    เพราะฉะนั้นบางท่านเวลาพูดถึงวิปัสสนา หรือบางท่านอาจจะใช้คำว่า สติปัฏฐาน แต่ว่าส่วนมากจะพูดว่า “ทำวิปัสสนา” ก็มักจะพูดว่า เวลาที่ผัสสะกระทบกับรูปารมณ์ หรือเวลาที่รูปารมณ์กระทบกับจักขุปสาท หรือเวลาที่รูปารมณ์ผัสสะกับจักขุปสาท ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่การที่สติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรมในขณะนั้น เพราะเหตุว่าเป็นการนึกถึงเรื่องของผัสสะ ซึ่งไม่ปรากฏ แต่ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตากำลังปรากฏ และสภาพที่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาก็กำลังเห็น

    เพราะฉะนั้นจึงควรระลึกรู้ลักษณะของสภาพที่กำลังปรากฏ คือ สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา หรือว่านามธรรมที่กำลังเห็น ไม่ใช่ไปพยายามรู้ผัสสะ

    ผู้ฟัง    ผมก็นึกว่า รู้ไม่ได้ ก็ไม่ได้คิดว่าจะไปรู้ แต่สังเกตดูว่า เจตสิกตัวนี้รู้สึกว่าจะเข้าใจยาก

     


    หมายเลข 6721
    25 ส.ค. 2558