ฟังธรรมแล้วไม่ท้อถอย ฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม


    คุณนีน่า เป็นสติเท่านั้น ที่คิดว่าไม่มีตัวตน อยากจะช่วยคนอื่นอธิบายเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องท้อถอย ต้องมีวิริยะ และกล้าต่อไปๆ

    ท่านอาจารย์ ผู้ที่ฟังธรรมแล้วไม่ท้อถอยก็เพราะเหตุว่าก็มีธรรมอยู่ แล้วก็กำลังปรากฏ แล้วก็ไม่เข้าใจ จะไม่เข้าใจต่อไป หรือว่าจะฟัง ค่อยๆ ฟังจนกระทั่งเข้าใจขึ้นเพราะเหตุว่ามีผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงให้บุคคลอื่นสามารถเข้าใจได้ และเราก็มีโอกาสที่จะฟัง และก็พิจารณาเกิดความเห็นถูก และเป็นปัญญาของเราเอง แล้วจะไม่มีความเห็นถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏทุกชาติ หรือ เพราะว่าบางชาติอาจจะไม่มีโอกาสได้ฟัง และก็ไม่รู้ด้วยว่าขณะนี้ก็เป็นธรรมทั้งหมดเลย แต่ว่าชาติไหนที่มีโอกาสได้รู้ว่าขณะนี้เป็นธรรมแล้วไม่เข้าใจ ยังไม่รู้ยังไม่ประจักษ์ ก็ฟังต่อไป เพื่อที่จะได้วันหนึ่งประจักษ์ก็เป็นสิ่งซึ่งไม่น่าท้อถอยเลย และยิ่งรู้ว่าเป็นสิ่งที่ยากจะรีบร้อนไปไหน ก็ในเมื่อกว่าจะได้รู้ความจริงแต่ละท่านที่ได้อบรมเจริญปัญญามาแล้วก็ลดหลั่นตามลำดับ แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ากว่าจะถึงพระคุณเช่นนั้น ก็ต้องอย่างน้อย ๔ อสงไขยแสนกัปป์หลังจากที่ได้ทรงพยากรณ์

    เพราะฉะนั้นทุกคำจริง และสภาพธรรมก็มีจริงๆ และปรากฏให้รู้ว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟังก็จริง เพราะฉะนั้นการที่จะอบรมเจริญปัญญาจนรู้จริง ก็ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเองว่ารู้แค่ไหน เข้าใจแค่ไหน หนทางนั้นตรงแค่ไหน หรือว่าจะเป็นหนทางที่ทำให้ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ถ้าเป็นหนทางที่ทำให้ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 54


    หมายเลข 6568
    19 ม.ค. 2567