อิตถินทรีย์ และ ปุริสสินทรีย์ เป็นอินทรีย์แต่ไม่เป็นอินทริยปัจจัย


    มีข้อสงสัยไหม  ในเรื่องของรูปที่เป็นอินทรีย์   

    สำหรับเรื่องของจักขุปสาท   โสตปสาท   ฆานปสาท  ชิวหาปสาท   กายปสาท   เป็นอินทรีย์ด้วย   และเป็นอินทริยปัจจัยด้วย  เพราะเหตุว่าทำให้จักขุวิญญาณเกิดขึ้น   โสตวิญญาณเกิดขึ้น   ฆานวิญญาณเกิดขึ้น   ชิวหาวิญญาณเกิดขึ้น  กายวิญญาณเกิดขึ้น

    แต่อิตถินทรีย์และปุริสินทรีย์เป็นอินทรีย์   แต่ว่าไม่เป็นอินทริยปัจจัย   

    เพราะฉะนั้นข้อที่จะต้องสังเกตก็คือ   ในอินทรีย์ ๒๒ นั้น  มี ๒ อินทรีย์ที่ไม่เป็นอินทริยปัจจัย  ได้แก่  อิตถินทรีย์และปุริสินทรีย์

    มีข้อสงสัยไหม  ในเรื่องของอินทรีย์ทั้ง ๒   ซึ่งไม่เป็นปัจจัย   แต่ว่าเป็นอินทรีย์

    ข้อความในปัฏฐานแสดงว่า 

    ภาวะรูป คือ  อิตถินทรีย์และปุริสินทรีย์เป็นปัจจัยไม่ได้   เพราะเหตุว่าธรรมที่จะเป็นปัจจัยได้นั้น   จะต้องเป็นปัจจัยโดยทำให้ปัจจยุปบันนธรรมเกิดขึ้น   โดยชนกสัตติ   คือ มีความสามารถที่จะทำให้สภาพธรรมอื่นเกิดขึ้น   หรือเป็นปัจจัย   โดยอุปถัมภ์ให้ปัจจยุปบันตั้งอยู่โดยอุปถัมภกสัตติ   หรือว่าเป็นปัจจัย  โดยอนุบาลรักษาปัจจยุปบันนธรรมไว้   โดยอนุปาลกสัตติ

    แต่สำหรับภาวะรูปทั้งสองนั้น   เป็นใหญ่โดยเพียงทำให้ปรากฏสภาพความเป็นหญิง   หรือเป็นชาย   ซึ่งก็เกิดจากการสะสมของกรรมและกิเลสอย่างละเอียดเท่านั้น   นี่ก็เป็นการที่จะต้องระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏให้เข้าใจให้ถูกต้องว่า   ที่ไม่ใช่สัตว์  ไม่ใช่บุคคล   ไม่ใช่ตัวตน   ซึ่งเป็นอินทรีย์   ถ้ามีการพิจารณา  และรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงของอินทรีย์ทั้งหลายแล้ว   ย่อมสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้


    หมายเลข 5665
    27 ส.ค. 2558