โลกุตตรธรรมไม่เป็นปกตูนิสสปัจจัยแก่อกุศล


    ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรเข้าใจของปกตูปนิสสยัจจัย   คือ  โลกุตตรธรรมไม่เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยแก่อกุศล   

    ปกตูปนิสสยัจจัยเป็นปัจจัยที่กว้างขวางมาก  ดังที่ได้กล่าวถึงแล้วว่า  กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยเกิดกุศลก็ได้   กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศลก็ได้   กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอัพยากตธรรมก็ได้

    สำหรับกุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศล  ต้องหมายถึงเฉพาะโลกียกุศลเท่านั้น   โลกุตตรธรรม   โลกุตตรกุศล   หรือโลกุตตรวิบาก  ไม่เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศลธรรมเลย

    แต่ว่าโลกุตตรธรรมเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยแก่กุศลทั้งหมด การอบรมเจริญกุศลทุกประการ   เพื่อที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจธรรม   คือ มัคคจิตเกิดขึ้นดับกิเลสเป็นสมุจเฉท ตามลำดับขั้นของมัคคจิต   จะเห็นได้ว่า  ต้องอาศัยการอบรม  การเจริญภาวนา สั่งสมกุศลทั้งหลาย  ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติตามความเป็นจริง   จนกระทั่งโสตาปัตติมัคคจิตเกิด   ไม่ใช่เป็นเวลาน้อย ๆ เลย   แล้วเมื่อโสตาปัตติมัคคจิตซึ่งสามารถดับกิเลสได้เกิดขึ้นดับไปแล้ว โสตาปัตติผลจิตเกิด   โลกุตตรธรรม คือ โสตาปัตติมัคคจิตก็ดี   โสตาปัตติผลจิตก็ดี   ไม่เป็นปัจจัยให้อกุศลจิตเกิดเลย   แต่จะเป็นปัจจัยให้กุศลทั้งหลายเกิดได้   ไม่ว่าจะเป็นทาน   หรือว่าศีล   หรือเป็นความสงบของจิต   หรือเป็นกุศลขั้นต่อ ๆ ไป

    เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะได้ทราบว่า   ในข้อที่ว่า   กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยแก่อกุศลนั้น   หมายเฉพาะโลกียกุศลเท่านั้น  ไม่หมายถึงโลกุตตรกุศล

    ข้อความในอรรถกถาปัญจปกรณ์   ปัฏฐานปกรณ์   วรรณนาแห่งปัญหาวาระวิภังค์   มีข้อความว่า

    ส่วนโลกุตตรกุศลเป็นธรรมระงับ  ประณีต   สูงสุด   กำจัดอกุศลได้เด็ดขาด   ฉะนั้น  จึงไม่เป็นอุปนิสสยปัจจัยแก่อกุศล   เหมือนพระจันทร์ไม่เป็นอุปนิสสยปัจจัยแห่งความมืด

    ก็เป็นตัวอย่างซึ่งเห็นได้ชัด   สำหรับโลกุตตรธรรมไม่เป็นปัจจัยแก่อกุศล   แต่โลกียธรมยังเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยของอกุศลได้


    หมายเลข 5321
    28 ส.ค. 2558