ความวิจิตรของจิต กับ ปโยคสมบัติ


    สำหรับเรื่องของจิต ที่สำคัญที่สุด คือ กิเลสและกรรมต่างๆที่ได้กระทำแล้ว ย่อมสะสมสืบต่ออยู่ในจิต เป็นพื้นฐานของจิต ซึ่งก็ย่อมต้องแล้วแต่ภพหนึ่งชาติหนึ่งจะเกิดในคติใด จะเป็นคติสมบัติหรือคติวิบัติ อุปธิสมบัติหรืออุปธิวิบัติ กาลสมบัติหรือกาลวิบัติ ปโยคสมบัติหรือปโยควิบัติ เป็นปัจจัยทำให้กิเลส หรืออกุศลซึ่งได้สะสมมาในจิต มีโอกาสจะเกิดมากและน้อยตามพื้นฐานของกรรมและวิบากนั้นๆที่จะให้ผล

    อย่างปโยคสมบัติ ความสามารถในกิจการงานต่างๆ ทุกท่านก็คงจะอยากเก่ง ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใด คงจะไม่มีคนที่อยากทำไม่เป็น หรือทำไม่เก่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการฝีมือ หรือกิจการใดๆก็ตาม ย่อมอยากที่จะกระทำได้อย่างดี แต่ก็น่าอัศจรรย์ในการสะสมของจิต ทุกคนก็มีมือ ๒ ข้าง มีนิ้วข้างละ ๕ นิ้ว มีปากกา มีดินสอ มีพู่กัน แต่ความสามารถในการเขียนรูป ในการวาดรูป ทั้งๆที่มี ๕ นิ้ว และก็มีปากกา มีดินสอ แต่ปโยคสมบัติต่างกัน คือ ความสามารถที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดย่อมเป็นไปตามการสะสมของจิตซึ่งละเอียดมาก เนิ่นนานมาในแสนโกฏิกัปป์ และก็มีต่อไปอีก

    เพราะฉะนั้นการสะสมของจิตทำให้ปโยคสมบัติวิจิตรต่างๆกัน ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้กระทำกรรมที่วิจิตรต่างๆกันด้วย แม้แต่กิริยาอาการ ท่าทาง ทุกคนคงอยากเป็นผู้ที่น่ารัก มีเสน่ห์ อ่อนหวาน แต่บางคนก็แข็ง ทั้งๆที่รู้ดีว่า ถ้าเป็นบุคคลที่อ่อนหวาน น่ารัก มีเสน่ห์ เป็นสมบัติอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดวิบากกรรมต่างๆที่เป็นฝ่ายดีได้ เพราะเหตุว่าคติก็ดี อุปธิก็ดี กาลก็ดี ปโยคก็ดี เป็นฐานของวิบากข้างหน้าที่จะเกิด แต่ก็ไม่มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้

    ไม่มีใครชอบการแยบยลของอกุศลกรรม ความคิดวิจิตรต่างๆ แต่บางคนก็มีความชาญฉลาดแยบยลที่จะกระทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้

    นี่ก็เป็นเรื่องของการสะสมของกิเลส ซึ่งถ้าไม่เห็นว่าอกุศลเป็นอกุศล แล้วแก้ไขโดยการเจริญกุศลขึ้น ความวิจิตรทางฝ่ายอกุศลย่อมต้องมีมากทีเดียว


    หมายเลข 3408
    17 ส.ค. 2558