พระวินัยเป็นรากแก้ว เครื่องขัดเกลา


    ที่ใช้คำว่า “พระวินัยเป็นรากแก้วของพระศาสนา” แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่เป็นไปเพื่อการขัดเกลา พระธรรมทั้งหมดไร้ประโยชน์ เป็นไปเพื่อความมานะ ความสำคัญตนไม่ได้มีความงอกงามเจริญในพระธรรม เพราะว่าไม่ได้ขัดเกลา ใครก็ตามที่จะศึกษาพระธรรม มีความรู้มาก มีความแตกฉาน หรือจะถึงความเป็นอริยบุคคลก็ตามแต่ ไม่เป็นไปเพื่อการอวด หรือไม่เป็นไปเพื่อลาภสักการะ

    ด้วยเหตุนี้พระศาสนาจึงดำรงมั่นคงอยู่ได้เมื่อเป็นไปด้วยการละ แต่ถ้าเริ่มที่ผู้หนึ่งผู้ไดไม่เป็นไปเพื่อการละ มีความสำคัญตนในความรู้ มีความสำคัญตนในการบรรลุธรรม  มีความสำคัญตนในตำรับตำรา มีความสำคัญตนในการมีบุคคลที่นับถือยกย่อง ผู้นั้นเหมือนตายจากพระธรรมวินัย ไม่มีการที่จะงอกเงยได้  เพราะเหตุว่าไม่ได้ขัดเกลา ด้วยเหตุนี้นะคะ พระพุทธศาสนาจะยั่งยืน มีพระวินัยเป็นรากแก้ว ก็เพราะเหตุว่าเป็นเครื่องขัดเกลายิ่งกว่าเพศคฤหัสถ์ 

    เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่เป็นบรรพชิต ต้องมีความสำนึกว่า การที่จะเข้าสู่พระธรรมวินัยต่างกับคฤหัสถ์ เหมือนฟ้ากับดิน ทุกอย่างต้องเป็นไปเพื่อการขัดเกลาอย่างยิ่ง พร้อมที่จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าไม่เป็นก็ไม่ใช่บรรพชิต เพราะบรรพชิตไม่ได้อยู่ที่จีวร แต่อยู่ที่พระวินัย ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยก็ไม่ใช่บรรพชิต ด้วยเหตุนี้ก็เป็นเรื่องกาลสมัยก็ผ่านมา ความคิดความอ่านของคนก็ต่างกันไป แต่ผู้ที่จะได้สาระจริงๆ จากพระธรรมและพระวินัย ก็คือผู้ที่ขัดเกลา และถ้าชาตินี้ไม่ขัดเกลา ยังติดโน่นติดนี่ ติดลาภ ติดยศ ติดสรรเสริญ ติดสักการะ ชาติต่อไปจะเป็นอย่างไรคะ ก็ไม่ได้ขัดเกลา

    เพราะฉะนั้นไม่เป็นทางที่จะทำให้พระศาสนายั่งยืน โดยการที่ว่าไม่ขัดเกลา ผู้ที่จะศึกษาธรรม ถ้ารู้จุดประสงค์จริงๆ ก็คือเพื่อการขัดเกลาเท่านั้น แล้วก็จะได้สาระจากการศึกษาจริงๆ ถ้าเป็นไปอย่างนั้น


    หมายเลข 2669
    26 ส.ค. 2558