มีปรกติเจริญสติได้..แม้จะไปสู่ที่อื่น


    ท่านอาจารย์ ไปที่นั่น แต่ผู้ที่มีปกติเจริญสติ สติต้องตามระลึกรู้ไปด้วยจึงจะชื่อว่า เป็นผู้มีปกติเจริญสติ จึงจะอยู่ในมหาสติปัฏฐาน ในอานาปานบรรพที่เป็นการเจริญมหาสติปัฏฐาน

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ อานาปานกถา เฉพาะอานาปาเท่านั้น

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ เขาไปใครห้ามได้ คนอื่นมาวัดคนนั้นไปป่าก็แล้วแต่ว่า ใครจะเจริญอานาปานสติสมาธิหรือใครจะพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม บรรพอื่น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ผู้ที่เคยเจริญก็ไปแต่ไม่ใช่ไปเฉยๆ ถ้าไปเฉยๆ เป็นสมถภาวนา แต่ถ้าเป็นมหาสติปัฏฐานแล้วเป็นผู้มีปกติเจริญสติแม้ในขณะที่ไป แม้ในขณะที่มีสติรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก แม้ในขณะที่ลมหายใจละเอียดหรือปรากฏในลักษณะต่างๆ กันก็เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ ที่ว่าไม่ใช่จุดประสงค์นั้นเพื่อที่จะให้สงบเป็นสมาธิ ไม่ใช่การเจริญสมถภาวนาแต่เขาไปเพราะเป็นปกติของเขา

    พยัญชนะที่ว่า ไปสู่โคนไม้ก็ดี ใน ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ภาค ๑ มีข้อความว่า

    คำว่า รุกฺขฺมูลํ ความว่า อาสนะของภิกษุซึ่งจัดไว้ที่โคนไม้นั้น คือ เตียง ตั่งฟูก เสื่อ ท่อนหนัง เครื่องลาดทำด้วยหญ้า เครื่องลาดทำด้วยใบไม้ หรือเครื่องลาดทำด้วยฟาง ภิกษุ เดิน ยืน นั่ง หรือนอนที่อาสนะนั้น

    ท่านผู้ฟังเคยกล่าวไว้เรื่องโคนไม้ ไปนั่ง นอน ยืน เดิน ที่โคนไม้เป็น รุกฺขฺมูลํ และมีอาสนะที่จัดไว้จะเป็นเตียง ตั่ง หรือเสื่อก็แล้วแต่อัธยาศัย ท่านผู้ฟังเคยไปนั่งโคนไม้บ้างไหม เคยเอาเสื่อไปปูใต้ต้นไม้บ้างไหม ก็เคยใช่ไหม เพราะฉะนั้นพระภิกษุท่านเคยทำอย่างไร ท่านเคยเจริญอย่างไร ท่านก็ทำเป็นปกติอย่างนั้น ไม่ใช่ด้วยความเข้าใจผิดว่า เมื่อจะเจริญสติปัฏฐานก็จะต้องเอาเสื่อไปใต้โคนไม้เท่านั้นจึงจะเป็นสถานที่สำหรับการเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่อย่างนั้นแต่เป็นผู้มีปกติเจริญสติแม้ว่าจะไปสู่โคนไม้ หรือจะมีเสื่อ มีฟูก มีท่อนหนัง มีเตียง มีตั่ง ซึ่งเป็นอาสนะอยู่ใต้ต้นไม้ก็ได้เป็นปกติ

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ ไม่ได้ว่าอะไร ที่ไหนก็ได้ ทำไมถึงจะต้องจำกัด

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ การเจริญสติปัฏฐาน คอยแต่จะจำกัด อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนั้นไม่ได้ ต้องอย่างนี้ ต้องอย่างโน้น แต่ความจริงแล้วมหาสติปัฏฐาน “มหา” แปลว่า มาก ทุกอย่างหมดไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม โคนไม้ที่ไหนก็ตามถ้าผู้นั้นไปแล้วเจริญสติ แม้ขณะที่ไปก็เจริญสติด้วย ไม่ใช่คิดว่า จะต้องไปที่โน่นจึงจะเป็นที่เดียวที่จะเจริญสติปัฏฐาน

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ ต้องเว้นอะไร ก็แล้วแต่ใครจะไปดง ห้ามได้หรือ แล้วแต่ใครจะไปตรงนั้นก็เจริญสติได้ อยู่ที่ไหนในโลกนี้หรือในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็ตาม จะเป็นโลกไหนก็ตามเป็นผู้มีปกติเจริญสติ อย่าไปจำกัดว่า ไม่ได้ถ้าพระไตรปิฎกแสดงว่า เตียง ตั่ง ฟูก เสื่อ ท่อนหนัง ต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เป็นผ้าเช็ดหน้าได้ไหม จะเป็นอะไรก็อย่าไปจำกัดหรืออย่าเป็นห่วง

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ เพียงแต่พยัญชนะ “ป่า” ก็เดือดร้อน วุ่นวาย ที่จะต้องให้เป็นป่าในลักษณะตามที่กล่าวไว้ มิฉะนั้นแล้วก็ไม่ใช่ เจริญสติไม่ได้อีก แต่ความจริงการเจริญสติปัฏฐานไม่ใช่อย่างนั้นเลย ขอให้เข้าใจให้ถูกว่า ที่ไหนก็ได้

    ผู้ฟัง ……

    ท่านอาจารย์ สำหรับอานาปานสติสมาธิ แต่ถ้าเป็นการเจริญสติปัฏฐานได้ทุกแห่ง


    หมายเลข 2498
    24 ก.ย. 2566