การไปสู่ที่สงบของผู้มีอัธยาศัยเท่านั้น


    ที่ว่า ไปสู่ป่าก็ดี โคนไม้ก็ดี เรือนว่างก็ดีนั้นเพราะเป็นอัธยาศัยที่เคยอบรมเคยเจริญอานาปานสติสมาธิแต่ไม่ใช่ว่า ทุกคนต้องไปอย่างนั้นและในหมวดเดียว คือ อานาปานสติเท่านั้นเพราะว่า ลมหายใจเป็นสภาพที่ละเอียด ประณีต ธรรมดาจิตย่อมคล้อยไปสู่อารมณ์ทางตาบ้าง หูบ้าง จมูกบ้าง ลิ้นบ้าง กายบ้าง เพราะฉะนั้นจึงไม่ตั้งมั่นที่ลมหายใจ ถ้าเป็นการเจริญให้สติตั้งมั่นอยู่ที่ลมหายใจเพราะได้อบรมว่าก็ต้องไปสู่สถานที่สงัด เช่น ป่า โคนไม้ เรือนว่าง ทั้งๆ ที่ลมหายใจมีไม่ทราบว่าจะเป็นเครื่องระลึกแล้วหรือยัง ถ้าสมมติว่า จะเจริญสติปัฏฐานและได้ฟังพยัญชนะเรื่องอานาปานบรรพ จะไปสู่โคนไม้ เรือนว่างไหม ผู้ที่เคยอบรมแล้วใครก็ห้ามไม่ได้ ระลึกได้โดยลักษณะของมหาสติปัฏฐานไม่ใช่โดยลักษณะของสมถภาวนา แต่เมื่อเป็นของจริงแล้วแต่ว่าจะปรากฏหรือไม่ปรากฏ อย่างอื่นปรากฏก็รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ สิ่งใดไม่ปรากฏก็ไม่ใช่ไปจดจ้องพากเพียรด้วยความต้องการ ถ้าเป็นลักษณะนั้นจะทำให้ไม่รู้ลักษณะของสิ่งที่เกิดปรากฏแล้วในขณะนี้เพราะว่า มีความพากเพียร จดจ้อง ต้องการสิ่งอื่นบังไม่ให้ประจักษ์ลักษณะของสิ่งที่เกิดแล้วปรากฏ


    หมายเลข 2581
    24 ก.ย. 2566