อกุศลจิตกับอกุศลกรรม


    . อกุศลจิตกับอกุศลกรรม หรือว่ากุศลจิตกับกุศลกรรม ต่างกันอย่างไร

    สุ. อกุศลกรรม หมายความถึงเจตนาที่จะกระทำทุจริตกรรม ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางกาย ๓ ได้แก่ ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ ทางวาจา ได้แก่ วจีทุจริต ๔ คือ มุสาวาท ๑ ผรุสวาท ๑ ปิสุณาวาจา ๑ สัมผัปปลาปวาจา ๑ ทางใจ ได้แก่ มโนกรรม ๓ คือ อภิชฌา ๑ พยาปาท ๑ มิจฉาทิฏฐิ ๑

    นั่นเป็นอกุศลกรรม แต่ในชีวิตประจำวัน ก็มีความพอใจในรูปที่เห็นทางตา ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ธรรมดาๆ โดยที่ไม่ใช่เป็นอกุศลกรรมบถ หนึ่งอกุศลกรรมบถใดในอกุศลกรรมบถ ๑๐ ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิตซึ่งไม่ใช่อกุศลกรรมบถ

    เพราะฉะนั้น สำหรับผู้ที่จะพิจารณาว่า อกุศลจิตขณะนั้นเป็นอกุศลกรรมหรือไม่ ก็โดยที่ทราบว่า ทางกายที่จะเป็นอกุศลกรรมมี ๓ ขณะที่ไม่พอใจสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ไม่ได้ประหัตประหาร ไม่ได้ประทุษร้าย ขณะนั้นก็ไม่ใช่ปาณาติบาต ก็เป็น อกุศลจิต ไม่ใช่อกุศลกรรม แต่ขณะใดที่เกิดความไม่พอใจมาก ต้องการที่จะทำลายชีวิต หรือฆ่าบุคคลนั้น ขณะนั้นเป็นปาณาติบาต เป็นอกุศลกรรมบถ ถ้าครบองค์ของอกุศลกรรมบถข้อปาณาติบาต จะทำให้เกิดในอบายภูมิได้

    หรือเวลาที่นึกชอบพอใจสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะนั้นก็เป็นโลภมูลจิต เป็นอกุศลจิต แต่ไม่ได้ทำทุจริตกรรม คือ ไม่ได้ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิตที่ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ

    หรือขณะที่ไม่ได้ล่วงประพฤติผิดในกาม ขณะนั้นก็ยังไม่ใช่อกุศลกรรมบถ ความยินดีในสามีในภรรยา ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ แต่เมื่อเป็นทุจริต คือ ประพฤติผิดในกาม ขณะนั้นเป็นอกุศลกรรมบถ

    ทางวาจา เวลาที่ขุ่นเคือง ไม่พอใจ แต่ไม่ได้พูดคำหนึ่งคำใดออกไปเพื่อประทุษร้ายบุคคลอื่นให้เขาเดือดร้อนใจ ขณะนั้นก็ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ ไม่ใช่ผรุสวาจา

    หรือขณะใดที่ไม่มีเจตนาให้ตนเองเป็นที่รัก ให้คนอื่นเป็นที่ชัง ขณะนั้นก็ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ ขณะใดที่ไม่ได้พูดเรื่องที่ไม่จริงเพื่อหักรอนประโยชน์ของบุคคลอื่น ขณะนั้นก็ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ ขณะใดที่ไม่ได้พูดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เพื่ออกุศลกรรม ขณะนั้นก็ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ

    ในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องของนามธรรมและรูปธรรม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลเลย เพราะฉะนั้น น่าจะได้ศึกษาลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมให้เข้าใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะกำลังนั่ง กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังคิด กำลังทำกิจการงาน ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกายหรือทางวาจาก็ตาม ควรที่จะได้รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมในขณะนั้นให้ละเอียดขึ้นว่า แต่ละขณะนั้นมีรูปประเภทไหนเกิดจากจิตประเภทไหนบ้าง

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1455


    หมายเลข 14287
    28 พ.ย. 2568