วิปัสสนาเป็นกุศลอย่างไร
ที่ถามว่า วิปัสสนาเป็นกุศลอย่างไร วิปัสสนาก็เป็นกุศลอีกขั้นหนึ่งที่สูงกว่า ขั้นทาน ขั้นศีล หรือขั้นสมถภาวนาซึ่งเป็นความสงบของจิต เพราะว่าบุคคลใดก็ตามให้ทานอย่างมากมาย ก็ยังไม่สามารถมีความสุขจริงๆ ได้โดยการไม่โกรธ เนื่องจากบางคนให้ทานมาก แต่ก็ยังโกรธ ยังหงุดหงิด ยังขุ่นเคืองใจอยู่เสมอ และขณะที่โกรธ หงุดหงิด ขุ่นเคืองใจ เป็นทุกข์หรือเป็นสุข
เพราะฉะนั้น ทานกุศล ไม่ได้ช่วยให้หมดความโกรธหรือความขุ่นเคืองใจได้ บางคนได้ฟังพระธรรมก็เห็นจริงว่า เกิดมาไม่นานก็ต้องจากโลกนี้ไป และยังโกรธ คนนั้น โกรธคนนี้ มีประโยชน์อะไร พบกันก็ควรที่จะเกื้อกูลกัน ดีกว่าพบกันแล้ว โกรธกัน และก็ตายไปด้วยความโกรธ ขณะที่ระลึกได้อย่างนี้ ชั่วครั้งชั่วคราว ก็อาจจะไม่โกรธ แต่ก็ยังมีความเป็นตัวตน มีความเป็นเรา มีความเป็นเขา ซึ่งก็ยังไม่สามารถดับอกุศลทั้งหลายลงไปได้ แต่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อทรงตรัสรู้ธรรมที่ดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท คือ ไม่เกิดอีกเลย
กิเลสทั้งหลายที่ทุกคนมี เช่น ความตระหนี่ ความหวงแหน ความโลภ ความติดข้อง ความพอใจ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ความริษยา ความอาฆาตพยาบาทต่างๆ หรือแม้แต่ความหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อนึกถึงอกุศลที่ได้ทำไปแล้วหรือกุศลที่ยังไม่ได้ทำ ต่างๆ เหล่านี้ จะดับหมดเป็นสมุจเฉทไม่เกิดอีกเลย แต่ต้องด้วยการอบรมเจริญปัญญา รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้น วิปัสสนาเป็นกุศลที่จะทำให้สามารถรู้สภาพธรรมตามความ เป็นจริง จนดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท และเมื่อท่านผู้หนึ่งผู้ใดบรรลุคุณธรรมเป็น พระอริยบุคคล ดับกิเลสแล้ว ย่อมเป็นประโยชน์ทั้งกับตนเองและบุคคลอื่น ที่กล่าวว่าจะเป็นกุศลอย่างไร ก็เป็นกุศลที่ทำให้ตนเองไม่เดือดร้อน และไม่ทำความเดือดร้อนให้บุคคลอื่นด้วย
