เรื่องของภาวนา
ถ. ทุกวันนี้ บางคนไปภาวนาที่วัดก็ถูกคนอื่นๆ ตำหนิว่า เป็นคนคร่ำครึโบราณ มัวแต่นั่งหลับหูหลับตาอยู่นั่นแหละ จะเอาอะไรกิน ไม่ทันเขาแล้ว ผมอยากทราบว่า การภาวนานั้นดีอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นไหมสำหรับชาวพุทธ
สุ. สำหรับในข้อแรกเรื่องของภาวนา การที่จะพูดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยที่ ไม่เข้าใจสิ่งนั้น จะไม่ทำให้หายสงสัยได้เลย แม้แต่การที่ไปวัด และบอกว่า ไปนั่ง ไปภาวนา ถ้ายังไม่เข้าใจความหมายของคำนี้จริงๆ ในพระพุทธศาสนา ก็ไม่สามารถหมดความสงสัย หรือรู้ว่าการกระทำอย่างนั้นถูกหรือผิดได้
ก่อนอื่น ภาวนาหมายความถึงการอบรมให้เกิดขึ้น ให้มีขึ้น เช่น ปัญญา ทุกคนมีหรือยัง ปัญญาที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีหรือยัง ถ้าปัญญาอย่างนี้ยังไม่มี ยังไม่ประจักษ์แจ้ง การอบรมเจริญปัญญาอย่างนี้ให้เกิดขึ้นก็เป็นการภาวนาที่เป็นวิปัสสนาภาวนา ซึ่งหมายความถึง เป็นการอบรมเจริญปัญญาที่รู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เพราะถ้ายัง ไม่ประจักษ์แจ้งว่า ขณะนี้เอง ความไม่เที่ยง ไม่ใช่ต้องรอตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ หรือรอจนกว่าจะถึงวันตายและจะเห็นความไม่เที่ยง หรือรอจนกระทั่งร่างกายที่กำลังมีสุขภาพแข็งแรงเกิดโรคภัยต่างๆ จึงจะเห็นว่าไม่เที่ยง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ตรงกับสภาพธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงบำเพ็ญพระบารมีที่จะทรงตรัสรู้ว่า ทุกๆ ขณะจิต ในขณะนี้เอง สภาพธรรมกำลังเกิดดับอย่างรวดเร็ว
เพราะฉะนั้น ที่จะประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมอย่างนี้ได้ ต้องอบรมเจริญปัญญาตั้งแต่ขั้นของการฟังเรื่องสิ่งที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น และสติเริ่มระลึกศึกษาลักษณะของสภาพนั้น จนกว่าจะประจักษ์แจ้งในการเกิดดับ นั่นคือ ความหมายของวิปัสสนาภาวนา
แต่ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องภาวนาว่า ภาวนาคืออะไร และมีกี่อย่าง ก็จะไม่รู้ว่า ที่ทำๆ กันอย่างนั้น ถูกหรือผิด
คนครึ คือ คนที่ไม่รู้ แต่ถ้าคนรู้ เป็นคนที่ไม่ครึ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะ กี่กัปมาแล้วก็ตาม ในสมัยก่อนจนกระทั่งถึงสมัยนี้ หรือถึงสมัยต่อไป ถ้าจะหา คำนิยามของคำว่า ครึ ครึก็คือคนที่ไม่รู้ความจริง แต่ถ้าคนที่มีปัญญาและรู้ จะกล่าวว่า ครึ ได้ไหม
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าครึหรือเปล่า พระอรหันตสาวก ครึหรือเปล่า พุทธบริษัทที่อบรมเจริญปัญญาครึหรือเปล่า แต่คนที่ไม่รู้ต่างหาก ที่เป็นคนครึ
เพราะฉะนั้น เรื่องครึ ไม่ครึ คงจะตัดไปได้ เพราะว่าไม่มีความสำคัญอะไร ที่สำคัญ คือ พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนเรื่องของปัญญา เรื่องของการอบรมเจริญปัญญาให้รู้ลักษณะของสภาพธรรมในชีวิตประจำวันตามปกติ ตามความเป็นจริง ซึ่งทุกคนเกิดมา ด้วยความไม่รู้ ถ้าไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรม ทุกคนก็ยังคงไม่รู้ แม้ว่าเห็นก็ไม่รู้ ได้ยินก็ไม่รู้ ได้กลิ่น คิดนึก สุขทุกข์ในวันหนึ่งๆ เหมือนกันทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ด้วยความไม่รู้
เมื่อพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรม ธรรมของพระองค์เพื่อความรู้ เพื่อปัญญาที่จะรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง รู้จักตัวเองละเอียดขึ้น รู้จักโลก รู้จักความจริงของทุกขณะจิต เพราะฉะนั้น ภาวนาที่เป็นวิปัสสนาภาวนา ที่เป็นไปตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นการอบรมเจริญปัญญาตามปกติ ตามความเป็นจริง
ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้วจะวินิจฉัยด้วยตนเองได้ว่า ใครก็ตาม จะทำอะไรก็ตาม ถูกหรือผิดอย่างไร ก็ต้องถามผู้ที่ไปนั่งว่า นั่งทำอะไร นั่งแล้วรู้อะไร เห็นอะไร ตรงหรือไม่ตรงกับที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้
เพราะฉะนั้น การศึกษาพระธรรมจะช่วยให้ผู้นั้นไม่ครึ และสามารถเข้าใจ ในเหตุในผลได้ถูกต้องตามความเป็นจริง
