อรรถกถาฆฏิการสูตร


    สำหรับการที่จะเกิดความพอใจ ไม่พอใจ เกิดความขุ่นเคืองใจในบุคคลหนึ่งบุคคลใด บางทีถ้าขาดการพิจารณาตนเองจะไม่ทราบว่า ความไม่พอใจ ความขุ่นเคืองใจนั้น สมควรหรือไม่สมควร

    มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ อรรถกถาฆฏิการสูตร มีข้อความว่า

    เมื่อพระเจ้ากิกิกาสิราชได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ ให้ทรงรับการอยู่จำพรรษาที่เมืองพาราณสีของพระองค์ เพื่อที่พระองค์จะได้บำรุงพระสงฆ์เห็นปานนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปะตรัสว่า พระองค์รับการอยู่จำพรรษาของฆฏิการะช่างหม้อแล้ว ซึ่งพระเจ้ากิกิก็ทรงปรารภถึงความไม่มีลาภ และมีความเสียพระทัย มีจิตโทมนัสว่า เราไม่ได้เพื่อถวายทานตลอดไตรมาส และไม่ได้เพื่อฟังพระธรรม และไม่ได้เพื่อปฏิบัติพระผู้มีพระภาคและพระภิกษุถึง ๒๐,๐๐๐ รูป โดยทำนองนี้ แต่ว่าพระเจ้ากิกิไม่ได้ทรงปรารภพระผู้มีพระภาค เพราะว่าไม่ได้ทรงน้อยพระทัย หรือเสียพระทัยในพระผู้มีพระภาค เป็นแต่ว่า เกิดความโทมนัสเสียใจว่า พระองค์จะไม่ได้ถวายทานตลอดไตรมาส และไม่ได้ ฟังธรรมตลอดไตรมาส

    คำถามมีว่า เพราะเหตุไร

    ตอบว่า เพราะพระองค์เป็นพระโสดาบัน

    เพราะฉะนั้น ความโกรธของแต่ละคนในแต่ละวัน ควรที่จะได้พิจารณาว่า สมควรหรือไม่สมควร ถูกหรือผิด เสียใจหรือน้อยใจในบุคคลที่ควรน้อยใจ หรือเสียใจไหม อย่างพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ควรมีผู้หนึ่งผู้ใดน้อยใจหรือเสียใจเลย เพราะว่าพระองค์เป็นผู้มีพระคุณสูงสุด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถวายทานต่อ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เมื่อคิดถึงพระคุณสูงสุดของพระองค์แล้ว ก็ไม่ได้น้อยใจเสียใจที่พระองค์ไม่ได้อยู่จำพรรษาที่พระนครพาราณสี แต่ไปจำพรรษาอยู่ที่เมืองของฆฏิการะช่างหม้อ

    เพราะฉะนั้น ควรที่จะได้คิดว่า เคยน้อยใจใครบ้าง หรือเคยเสียใจใครบ้าง และสมควรไหม ถ้าบุคคลนั้นเป็นผู้มีพระคุณอย่างมารดาบิดา หรือว่าญาติผู้ใหญ่

    นี่เป็นสิ่งที่ถ้ามีความละเอียดในการพิจารณาจิต และเกิดสติพิจารณา แม้เพียงความควรหรือไม่ควร จะทำให้อกุศลทั้งหลายเบาบางลงบ้าง

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1607


    หมายเลข 14105
    29 พ.ย. 2568