คิดนึกเรื่องราวด้วยโลภะ หรือด้วยโทสะ


    สุ. ทุกคนเห็นจนชิน ไม่ได้คำนึงเลยว่า ในขณะที่เห็น ชั่วขณะที่รูปกระทบกับจักขุปสาทแล้วดับ มโนทวารวิถีจิตไม่ได้ปล่อยสิ่งที่ปรากฏทางตาไปเลย ยังนึกถึงรูปร่างสัณฐาน ยังมีความทรงจำในวัตถุที่ปรากฏ และมีการคิดนึกเรื่องราวยาวทีเดียวด้วยโลภะ หรือด้วยโทสะ

    ซึ่งใน สัมโมหวิโนทนี อรรถกถา วิภังคปกรณ์ นิทเทสวิญญาณธาตุ ข้อ ๑๘๑ มีข้อความอุปมาว่า

    เหมือนคนเต้นรำบนเวทีเต้นรำ เพราะประกอบด้วยกิเลสนานัปการ มี ความโลภ ความโกรธ เป็นต้น

    วันหนึ่งๆ ทางตาเห็น ดับไปแล้ว แต่ทางใจไม่ได้หยุดคิดเรื่องสิ่งที่เห็น และก็มีความสุขความทุกข์ไปกับเรื่อง กับเรื่องเท่านั้นเอง เพราะสิ่งที่ปรากฏทางตา ดับไปหมดแล้ว แต่เมื่อมีความสุข ความทุกข์ มีกิเลส กับเรื่องของสิ่งที่ปรากฏทางตา ก็เหมือนกับ คนเต้นรำบนเวทีเต้นรำ เพราะประกอบด้วยกิเลสนานัปการ มีความโลภ ความโกรธ เป็นต้น

    ความโลภทำให้เต้นรำไปลักษณะหนึ่ง ความโกรธก็ทำให้เต้นรำไปอีก ลักษณะหนึ่ง เพราะฉะนั้น ทุกคนที่กำลังเต้นรำบนเวทีเต้นรำ จะเต้นสวยด้วยกุศล หรือจะเต้นไม่สวยด้วยอกุศล แต่ก็ลืมว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องทั้งหมด

    เพราะฉะนั้น ทางตาเป็นแต่เพียงทวาร เป็นรูป เป็นทางให้เห็นสิ่งที่ปรากฏ สีสันวัณณะต่างๆ เท่านั้นเองจริงๆ แต่ทางใจ เห็นใคร ชอบหรือไม่ชอบ และก็เต้นรำไปด้วยความโลภบ้าง ด้วยความโกรธบ้าง ถ้าไม่รู้ความจริงอย่างนี้ จะไม่สามารถรู้ความต่างกันของปรมัตถธรรมกับบัญญัติ

    ทางหูได้ยินเสียง เสียงดับไปแล้ว แต่ความคิดเรื่องคำต่างๆ เรื่องราวต่างๆ ยาวมาก เสียงดับไปตั้งแต่เมื่อวันก่อน ถ้าเป็นเสียงที่ทำให้โกรธขุ่นเคืองใจ วันนี้ก็ยัง ขุ่นใจเพียงแค่นึกเท่านั้นเอง นึกถึงเสียงที่ได้ยิน เพราะฉะนั้น ก็เต้นรำไปบนเวที ด้วยความโกรธอีก ไม่มีอะไรเลย นอกจากปรมัตถธรรมซึ่งเกิดมาแล้วก็มีอายุที่สั้นมาก ชั่วขณะที่เล็กน้อยจริงๆ และก็ดับ แต่โลกของความคิดนึก เก็บทุกสิ่งทุกอย่างมา ปรุงแต่งทำให้เกิดความสุข ความทุกข์ ความสำคัญในสิ่งที่ปรากฏ ซึ่งโดยที่แท้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน หรือว่าเป็นวัตถุ เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่อบรมเจริญปัญญา สามารถรู้ความต่างกันของปรมัตถธรรมกับบัญญัติได้ว่า ขณะใดที่กำลังเป็นเรื่องราวต่างๆ ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ปรากฏและดับไป ขณะนั้นเป็นมโนทวารวิถีที่เป็นการคิดนึกทั้งหมด

    ทุกคนสุขทุกข์อยู่ในความคิดนึก และไม่ได้พิจารณาด้วยว่า ตาก็ดี ทำให้เกิดเรื่องยาว หูก็ดีที่ได้ยินเสียง ก็ทำให้เกิดเรื่องยาว เหตุการณ์ต่างๆ ยาวมาก แม้จมูก แม้ลิ้น แม้กาย ก็โดยนัยเดียวกัน

    ทุกท่านที่อ่านหนังสือจะเห็นได้จริงๆ ว่า เพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา ทำไมเรื่อง ในหนังสือนี้มากเหลือเกิน ใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นวิชาการสาขาไหนทั้งสิ้น จะเป็นหนังสือสารคดี จะเป็นนวนิยาย หรือจะเป็นประวัติศาสตร์ เป็นวิชาการต่างๆ เรื่องนี่มาก ทั้งๆ ที่ทางตาเพียงปรากฏ แต่ทางใจคิดนึกแค่ไหน นี่คือความจริงของชีวิต ซึ่งถ้า ไม่รู้ความจริงอย่างนี้ ก็ยังคงเป็นอัตตสัญญา ยังคงหลงยึดถือบัญญัติธรรมว่า เป็นสิ่งที่มีจริง ซึ่งความจริงแล้วไม่มีเลย เป็นแต่เพียงชั่วขณะที่เกิดและดับ แต่ทางใจปรุงแต่ง

    . ทางใจปรุงแต่ง ขณะที่ปัญจทวารวิถีดับไปแล้ว มโนทวารวิถีต่อทันที ขณะนั้นทางมโนทวารวิถี ชวนะก็เสพเหมือนกับปัญจทวารวิถีเหมือนกัน เช่น ทางตา ทางมโนทวารวิถีไม่มีจักขุวิญญาณ แต่มโนทวารวิถีที่รำพึงถึงสัณฐาน รำพึงทาง มโนทวารวิถีที่ต่อจากจักขุวิญญาณวิถี หรือเกิดขึ้นโดยไม่ต้องต่อจากปัญจทวารวิถี

    สุ. มโนทวารวิถีจะเกิดต่อจากปัญจทวารวิถี เวลาที่ภวังคจิตคั่นแล้วทันที เป็นปกติ แต่หลังจากนั้นมโนทวารวิถีจะเกิดขึ้นเองก็ได้ แม้ไม่เห็นก็ยังนึกถึงสิ่งที่ เคยเห็น ในขณะนั้นไม่ได้เกิดต่อจากจักขุทวารวิถี

    . เช่น เดี๋ยวนี้ ถ้าเห็นแล้วรู้ว่าเป็นสัตว์บุคคล ขณะนั้นไม่มีการแยกขาดของปัญญาว่า สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นจักขุทวารที่เห็นหรือว่าเป็นทางใจที่รำพึงถึงรูปร่างสัณฐาน สงสัยว่า มโนทวารที่รำพึงถึงรูปร่างสัณฐาน เป็นมโนทวารที่ดับไปหลังจากทางปัญจทวารดับไปหรือเปล่า หรือเป็นมโนทวารที่ต่อจากนั้นอีก

    สุ. เมื่อจักขุทวารวิถีจิตดับแล้ว รูปดับ ภวังคจิตเกิดต่อ มโนทวารวิถี วาระแรกมีปรมัตถอารมณ์เดียวกับที่เพิ่งดับไปเป็นอารมณ์ เป็นการสืบต่อจาก ปัญจทวารวิถีเท่านั้น เป็นการรู้อารมณ์สืบต่อจากปัญจทวารวิถี ซึ่งไม่มีใครยับยั้งได้

    . รู้อารมณ์เป็นปรมัตถ์ หรือเป็นบัญญัติ

    สุ. เป็นปรมัตถอารมณ์ ยังไม่มีเรื่องราวหรือสัณฐานทันที

    . และเรื่องราวสัญฐานจะเกิดที่ ...

    สุ. วาระหลังๆ จากนั้น นี่เป็นการเกิดดับสืบต่อกันอย่างเร็วมากทีเดียว ซึ่งในขณะนี้ตราบใดที่ยังเห็นเป็นคน ให้ทราบว่า ยังไม่จริง ยังไม่รู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง จนกว่าสติจะระลึกและน้อมไปรู้ว่า เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ ทางตาเท่านั้น เรื่อยๆ

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1600


    หมายเลข 14095
    28 พ.ย. 2568