ทุติยกาลสูตร


    ใน อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต อาภาวรรคที่ ๕ ทุติยกาลสูตร มีข้อความว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔ เป็นไฉน คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ การสงบตามกาล ๑ การพิจารณาตามกาล ๑

    กาล ๔ นี้แล อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เมื่อฝนเม็ดใหญ่ตกบนภูเขา น้ำไหลไปตามที่ลุ่ม ย่อมยังซอกเขา ลำธาร และห้วยให้เต็ม ซอกเขา ลำธาร และห้วยเต็มแล้ว ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้วย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้วย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็ม แม่น้ำน้อยเต็มแล้วย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็ม แม่น้ำใหญ่เต็มแล้วย่อมยังสมุทรสาครให้เต็ม แม้ฉันใด กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล

    ถ้าไม่เคยเจริญสติเลยสักขณะเดียว สติจะมีมากได้ไหม ก็ไม่ได้

    ถ้าไม่มีการฟังธรรมเลย ไม่มีการพิจารณาเรื่องของการเจริญสติปัฏฐานให้เข้าใจถูกต้องเลย สัมมาสติจะระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏทุกๆ ขณะแล้วปัญญาจะรู้ชัดได้ไหม ก็ไม่ได้

    แต่ถ้ามีการเจริญสติทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ก็ย่อมสามารถที่จะทำให้ปัญญารู้ชัดในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏได้

    บางท่านอาจจะบอกว่า กำลังเห็นเมื่อไรจะรู้ชัดสักทีว่า สภาพที่เห็นก็เป็นแต่เพียงนามชนิดหนึ่ง ละคลายไม่ยึดถือว่าเป็นตัวตน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ

    กำลังเห็น ถ้าไม่เจริญเหตุให้ถูกต้องแล้ว การรู้ชัด การละ การคลาย การยึดถือในขณะที่กำลังเห็นว่าเป็นตัวตนก็หมดไปไม่ได้ แต่ที่จะหมดได้ก็ต้องเจริญสติ ระลึก รู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏบ่อยๆ เนืองๆ ทีละเล็กทีละน้อย แล้ววันหนึ่งความรู้ต้องชัดขึ้น นี่เป็นของที่แน่นอนที่สุด แต่อย่าคิดที่จะบรรลุอริยสัจโดยไม่เจริญสติหรือว่าโดยไม่รู้ลักษณะของนามและรูป

    บางท่านไม่คิดว่าจะต้องรู้ลักษณะของนามและรูป แต่คิดว่าจะไปรู้ทุกข์บ้าง คิดว่าจะรู้แจ้งอริยสัจจะได้โดยไม่รู้ลักษณะของนามและรูป ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย

    ประโยชน์ของการฟังธรรมมีมากทีเดียว พระไตรปิฎกทั้ง ๓ ปิฎกนั้นก็ควรค่าแก่การฟัง ควรค่าแก่การศึกษา ควรค่าแก่การอ่าน การค้นค้า เพื่อให้ได้รับประโยชน์ให้เต็มที่ เพราะเหตุว่าที่พระผู้มีพระภาคทรงพระมหากรุณาแสดงธรรมถึง ๔๕ พรรษา ก็เพื่ออนุเคราะห์ให้ผู้ฟังได้เข้าใจสภาพธรรมชัดเจนถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะเหตุว่าถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงไว้โดยละเอียดแล้ว ก็อาจจะทำให้เข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 52


    หมายเลข 13469
    18 พ.ย. 2568