เข้าใจจริงๆ ว่า ขณะนี้เป็นธรรม


        ด้วยเหตุนี้ประโยชน์ของการศึกษาธรรม ก็คือเข้าใจว่า ขณะนี้เป็นธรรม ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม แล้วเมื่อเกิดแล้ว ก็เกิดตามเหตุปัจจัยด้วย แล้วก็ดับไป แม้ขณะนี้เอง ฟังอย่างนี้ เข้าใจอย่างนี้ ยังไม่พอที่จะรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ขณะนี้ไม่มีอะไรที่เที่ยง ที่ยั่งยืนเลย สักอย่างเดียว เพราะเหตุว่ายังไม่ได้ประจักษ์ความจริงของสภาพธรรม อย่างผู้ที่ได้ประจักษ์แล้ว อย่างที่พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประจักษ์ และทรงแสดง

        ด้วยเหตุนี้ต้องอาศัยการฟัง และพิจารณา จนกระทั่งเป็นความเข้าใจของตัวเอง จะไม่มีการถาม แล้วเป็นอย่างไร เป็นกุศลหรือเปล่า หรือเป็นอกุศลหรือเปล่า แล้วจะทำอย่างไร จะนั่งได้ไหม จะเดินอย่างนี้ได้ไหม

        นี่คือไม่ได้ฟังธรรม เพราะเหตุว่าถ้าฟังธรรม พิจารณาธรรม เข้าใจธรรม นั่นคือประโยชน์ของการฟัง แต่ถ้าได้ฟังแล้วยังคงไม่เข้าใจอยู่ ขณะนั้นไม่ได้ฟังธรรม หรือฟังเพียงชื่อ แต่ว่าไม่ได้เข้าใจจริงๆ ว่า ขณะนี้เป็นธรรม

        เพราะฉะนั้นลองคิดดูที่จะเข้าใจจริงๆ ว่า ขณะนี้เป็นธรรม ยากไหมคะ? ยากมาก เพราะอะไร เพราะเคยไม่รู้มานานแสนนาน เพราะฉะนั้นที่จะไปใจร้อน รีบเร่ง ให้รู้ความจริงของสภาพธรรม เป็นไปไม่ได้เลย แต่เมื่อฟังแล้วสามารถจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า เข้าใจขึ้นในสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ

        ขณะนี้มีจิต พระผู้มีพระภาคทรงทราบ ทรงรู้แจ้งมากกว่าเพียงแค่มีจิต แต่รู้ว่า จิตที่มีในขณะนี้ต่างกันเป็นประเภทต่างๆ โดยชาติหรือ ชา–ติ การเกิด เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี ซึ่งเป็นเหตุ เป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก ซึ่งเป็นผลก็มี และจิตที่ไม่ใช่ทั้งเหตุ และผล คือ ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล ไม่ใช่วิบากก็มี เป็นกิริยาจิต ซึ่งไม่เป็นเหตุให้เกิดผลเป็นวิบากอีกต่อไป และไม่ใช่ผลซึ่งเกิดมาจากเหตุที่ได้กระทำแล้วด้วย เพราะเหตุว่าไม่ใช่เป็นวิบากซึ่งเป็นผลของกรรมหนึ่งกรรมใด

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 257


    หมายเลข 11975
    23 ม.ค. 2567