ศึกษาธรรมเยอะๆ จำชื่อได้แยะๆ ลวงหรือเปล่า -พฐ.199


        อ.อรรณพ ท่านกล่าวว่าอุทธัจจะย่อมลวงเสมือนการปรารภความเพียร

        สุ. อุทธัจจะเกิดกับอกุศลจิตทุกประเภท หมดความสงสัยเลยใช่ไหม

        อ.อรรณพ หมายความว่าความฟุ้งซ่าน (อุทธัจจะ) ทำให้เหมือนกับว่าเราต้องไปเพียรทำโน่นทำนี่ ขณะนั้นเราก็เลยคิดว่าดี แต่จริงๆ แล้วขณะนั้นฟุ้งซ่าน มุ่งหวังคิดว่าตัวเองจะได้ศึกษามากๆ จะได้เจริญธรรมมากๆ อย่างนั้นใช่ไหมครับ

        สุ. หนทางปฏิบัติที่ผิดคงได้ฟังทางวิทยุแล้ว ที่มีผู้เขียนจดหมายมา แล้วก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง ก็จะเห็นชัดเลยว่าถูกลวงแค่ไหน

        อ.อรรณพ ธรรมเครื่องล่อลวงหรือวัญจกธรรมนี้เป็นเฉพาะกับปุถุชนเท่านั้นใช่ไหมครับ พระอริยบุคคลอย่างพระโสดาบันท่านก็ยังมีอกุศลที่เหลืออยู่ ท่านยังมีโลภะ โทสะ โมหะส่วนที่เหลืออยู่ แต่ว่าท่านจะไม่ถูกอกุศลเหล่านี้ลวงว่าเป็นกุศลเลยใช่ไหม

        สุ. พระโสดาบันยังเห็นสิ่งที่ปรากฏว่างามหรือเปล่า

        อ.อรรณพ ยังเห็นว่างาม แต่การที่จะถูกลวงจะแตกต่างอย่างไรกับปุถุชน

        สุ. เห็นว่างามนั่นถูกหรือผิด ลวงหรือเปล่า

        อ.อรรณพ ครับ แต่ลวงคนละระดับกับปุถุชนที่ไม่ได้สดับ

        สุ. ถ้าคนที่ไม่รู้เลย ก็จะถูกลวงหนาแน่นแค่ไหนก็อีกเรื่องหนึ่งเลย เทียบกันไม่ได้ ถูกลวงเพราะไม่รู้ใช่ไหม คนรู้ก็จะไม่ถูกลวง เพราะฉะนั้นตราบใดที่ไม่รู้ก็ยังถูกลวง ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องละ ไม่ใช่เรื่องเอา เรื่องได้ เรื่องต้องการ จะละ ไม่ลวงแล้ว แต่จะต้องการนั้นคือลวง อย่างศึกษาธรรมเยอะๆ จำชื่อได้แยะๆ ลวงหรือเปล่า

        วิ. การศึกษาปริยัติไม่เพียงพอหรือเปล่า ความเข้าใจไม่มี

        สุ. การศึกษาปริยัติต้องเข้าใจว่าปริยัติคืออะไร ถ้าศึกษาปริยัติก็คือฟังให้เข้าใจเรื่องสภาพธรรมที่มีจริงๆ ถ้าเพียงแต่ชื่อจำได้เยอะๆ แต่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วก็คือลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนั่นเอง ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ก็ลวงให้เป็นผู้ที่เข้าใจว่าได้ประโยชน์จากการศึกษา ซึ่งความจริงได้ชื่อ ได้ความเข้าใจแม้เพียงเข้าใจว่าเป็นการศึกษาให้เข้าใจแม้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏจริงๆ จน กว่าจะรู้แจ้งสภาพธรรม และเพื่อให้เห็นความเป็นอนัตตา

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 199


    หมายเลข 10517
    25 ม.ค. 2567