ค่อยๆ สะสมความเห็นถูกจนเป็นสัจจญาณ


        ข้อสำคัญที่สุด ธรรมลึกซึ้ง ไม่เห็นผิดว่าไม่ลึกซึ้ง ธรรมเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ต้องมีความเห็นถูกต้องโดยการฟังว่าเป็นธรรมแต่ละลักษณะ ค่อยๆ สะสมความเห็นถูกเป็นสัจจญาณ เรื่องที่จะหวังว่าเมื่อไหร่จะประจักษ์การเกิดกับ เมื่อไหร่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม เมื่อไหร่จะเป็นนามรูปปริเฉทญาณ ก็เป็นการคิดหวังคร่ำครวญโดยไร้เหตุ ถ้าไม่มีความเข้าใจ ไม่มีการฟัง พูดทำไม กี่ร้อยกี่พันครั้งกี่แสนชาติก็คือเป็นแต่เพียงความคิดความหวัง โดยไม่มีเหตุที่สมควรที่จะให้เข้าใจถูกในลักษณะของสภาพธรรม เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสที่จะได้ฟังธรรม และก็มีศรัทธา เราก็ไม่ทราบว่าชาติหน้าจะเกิดที่ไหนสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอริยบุคคล

        จากคนที่สวยงามก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้ เป็นหนอนเป็นอะไรก็ได้หมด จากทรัพย์สมบัติที่มีมากก็จะเป็นคนที่ขัดสนก็ได้ ทุกอย่างในชีวิตก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครชนะวิบาก ถึงเวลาที่กรรมจะให้ผลเมื่อไหร่ก็จะเป็นปัจจัยทำให้ผลนั้นเกิดขึ้นโดยที่คนอื่นก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่ได้ยินได้ฟัง ก็เป็นการแสดงยืนยันถึงความจริงของธรรมว่าเป็นธรรมที่ไม่อยู่ใน อำนาจบังคับบัญชาของใคร

        เพราะฉะนั้น ขณะนี้ที่ได้ฟังพระธรรมที่มีการพิจารณา และก็เป็นผู้ตรงที่จะรู้ว่ามีความเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏแค่ไหน กำลังฟังเรื่องสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็เป็นผู้ที่รู้ดี เป็นผู้ที่ตรงที่จะต้องสะสมว่าขณะไหนที่สติสัมป ชัญญะไม่เกิด ไม่ใช่การรู้ลักษณะจริงๆ ของสภาพธรรมที่กำลังได้ยินได้ฟัง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีปัญญาอีกระดับหนึ่งซึ่งรู้ความต่างของขณะที่สติเกิด และขณะที่หลงลืมสติ

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 225


    หมายเลข 11132
    24 ม.ค. 2567