จะต้องรู้ว่า ขณะใดหลงลืมสติ...ขณะใดสติเกิด !

 
พุทธรักษา
วันที่  4 ส.ค. 2551
หมายเลข  9463
อ่าน  1,084

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากการถอดเทปวิทยุ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล.

คุณวิท อาจารย์ครับ โดยตำรา ขณะที่สติเกิดขึ้นระลึกรู้การเห็นนี้ระลึกรู้ ขณะที่จักขุวิญญาณเกิดขึ้น หรือว่า ขณะที่มโนวิญญาณเกิด รับรู้อารมณ์จากจักขุวิญญาณต่อ

ท่านอาจารย์ ขณะนี้เห็น ใช่ไหมคะ...แล้วยังไงค่ะ

คุณวิท ถ้ามีการเห็น ก็แสดงว่า ต้องมีการกระทบกัน ระหว่างจักขุวิญญาณกับรูปแล้วอารมณ์ก็จึงจะส่งต่อไปทางใจ แล้วขณะที่สติระลึกนี้ระลึกขณะที่เป็นจักขุวิญญาณ สติเกิดพร้อมกับจักขุวิญญาณหรือว่า สติเกิดหลังจากมโนวิญญาณรู้รูป

ท่านอาจารย์ สติเกิดพร้อมจักขุวิญญาณไม่ได้ เพราะฉะนั้น การที่จะศึกษาต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติถูกต้องตรงยิ่งขึ้น เพราะว่า เพียงแต่พูดว่า"นามธรรม เป็น สภาพรู้ รูปธรรม เป็น สิ่งที่มีจริง" แต่ไม่สามารถรู้อารมณ์อะไรได้เลยเพียงเท่านี้ กิเลสก็ไม่หมดและปัญญาก็ไม่รู้ชัดเพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคจึงได้ทรงแสดงความละเอียดของสภาพธรรม
ที่เป็น นามธรรม คือว่า นามธรรมประเภทนี้ คือ จิต

นามธรรมประเภทนั้นๆ คือ สภาพธรรมที่เกิดกับจิต เป็น เจตสิกซึ่ง (เจตสิก) มีลักษณะต่างๆ กัน และเพื่อให้เกิดความรู้ถูกต้องยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้าใจในความไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคลก็ทรงแสดงเรื่อง สภาพนามธรรมที่เกิดขึ้นโดยละเอียดว่ามีนามธรรม ซึ่งเป็นเจตสิกเกิดร่วมด้วย จำนวนเท่าไร

คุณวิท อย่างที่ผมถามเมื่อกี้ว่าสติจะเกิดขึ้น เมื่อรู้อารมณ์คือรูปนั้น...ทางใจแล้ว

ท่านอาจารย์ เพียงคำสั้นๆ ที่ว่า "สิ่งหนึ่งสิ่งใด มีการเกิดขึ้น เป็นธรรมดาสิ่งนั้น ก็มีการดับไป เป็นธรรมดา"ก็ยังสามารถประจักษ์ การเกิดดับของสภาพธรรมได้

ถ้าเข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใด คือ ธรรมะที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ทางหนึ่งทางใด ลักษณะหนึ่งลักษณะใดเพราะผู้นั้น อบรมเจริญปัญญามามากพอ แต่ถ้าผู้นั้น ไม่ได้อบรมเจริญปัญญามามากพอการฟังเรื่องของสิ่งที่กำลังปรากฏ ให้เข้าใจชัดเจนขึ้น ละเอียดขึ้น ลึกซึ้งขึ้น ย่อมอุปการะเกื้อกูล เวลาที่สติเกิดและสามารถที่จะน้อมรู้ถึงลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตนที่อาศัยปัจจัยเกิดขึ้นแล้วดับไปทันที

คุณวิท ถ้ารู้ขณะนั้นเมื่อไร หมายความว่า ขณะที่เห็นปั๊ป ก็รู้ว่าเป็นสภาพธรรมที่เห็นทันทีเลย ขณะนั้น บรรลุมรรคผลแล้ว ใช่ไหม

ท่านอาจารย์ ยังค่ะ! ปัญญาต้องรู้ชัดขึ้นอีก...ชัดขึ้นอีกตามลำดับขั้นและประจักษ์ความเป็นอนัตตา ของสภาพธรรม ละเอียดยิ่งขึ้น

คุณวิท แล้วที่ว่า...ขณะนี้เจริญสติปัฏฐาน ก็แสดงว่าขณะที่กำลังเห็น...สติเกิดขึ้นระลึกรู้

ท่านอาจารย์ มีใครมีสติบ้างคะ กำลังเห็นขณะนี้ มีใครระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เห็นบ้าง ก็ไม่ทราบแต่ตัวเองทราบได้ใช่ไหมคะ ว่าสติเกิดหรือเปล่า

คุณณวิท เกิด...แต่ไม่เคยรู้

ท่านอาจารย์ ค่ะ...เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่สติปัฏฐาน แล้วทำไมว่าเกิดละคะ?ก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน แต่คิดเอา เพราะตำราบอกว่าในขณะที่เห็น สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเห็นก็เลยเข้าใจว่า...ขณะที่ได้ยินอย่างนี้มีลักษณะของสภาพธรรมที่เห็น ไม่ได้เลย เรื่องธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดจะต้องรู้ว่า ขณะใดหลงลืมสติ ขณะใดสติเกิด


ขออนุโมทนาและขออุทิศกุศลแด่

คุณพ่อ คุณแม่ และสรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prakaimuk.k
วันที่ 5 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Noparat
วันที่ 5 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 5 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 5 ส.ค. 2551

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ และขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 5 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 5 ส.ค. 2551
ขอนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 5 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อเกิดย่อมรู้ว่าขณะใดมีสติและขณะใดหลงลืมสติ เพราะสติเกิดแล้ว จึงรู้ความต่าง ถ้าไม่รู้ตรงนี้ระหว่างสติเกิดและหลงลืมสติ ก็อบรมปัญญาที่เป็นสติปัฏฐานไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าขณะใดสติเกิด อันเนื่องมาจากสติยังไม่เกิดนั่นเอง

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 6 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Pararawee
วันที่ 6 ส.ค. 2551

เมื่อสติเกิดจะรู้ความต่างจากหลงลืมสติ

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ