สรุปการสอนธรรมะที่ถูกต้อง

 
คุณสงสัย
วันที่  2 ส.ค. 2551
หมายเลข  9446
อ่าน  2,314

มีท่านผู้ฟังท่านหนึ่งให้ข้อเสนอแนะว่า ควรให้อาจารย์ที่สอนธรรมะในยุคสมัยนี้มาคุยกันถึงการเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง เพื่อจะได้ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ฟังทั่วไปจริงๆ ไม่ทราบว่าทางมูลนิธิฯ จะให้ความคิดเห็นเสนอแนะท่านผู้ฟังท่านนี้อย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 3 ส.ค. 2551
เป็นข้อเสนอแนะที่ฟังดูดี แต่จะมีหนทางเป็นไปได้หรือไม่ แม้ในสมัยที่พระพุทธองค์ล่วงไปแล้วไม่นาน เป็นยุคที่ยังมีพระอรหันต์ที่ท่านมีฤทธิ์ ท่านก็ยังไม่สามารถให้ผู้แสดงธรรมทุกคนแสดงธรรมเหมือนกันได้ และภายหลังก็แตกแยกกันเป็นหลายๆ นิกายก็เพราะ ความเห็นความเข้าใจธรรมะที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะให้ผู้ที่มีความเห็นต่างกันมาคุยกันและสอนธรรมะตรงตามพระไตรปิฎกเหมือนกันจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ครับ..
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 3 ส.ค. 2551

ทุกคนสั่งสมอุปนิสัยและกรรมมาต่างๆ กัน รวมถึงปัญญาก็ยังมีหลายระดับ ในครั้ง

พุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนความเห็นผิดของอัญญเดียรถีย์ได้เลยค่ะ

เพราะฉะนั้นตามกรรมและการสั่งสมอัธยาศัยต่างๆ กัน เราจึงไม่ควรประมาทในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 3 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ ผู้ที่มีความเห็นถูก ก็ย่อมคบกับผู้มีความเห็นถูกเพราะ

ยินดีในความเห็นถูก ผู้ที่มีความเห็นผิด ก็คบกับผู้ที่มีความเห็นผิดเพราะยินดีในความ

เห็นผิด ผู้ที่มีความเห็นถูกย่อมไม่ยินดีและไม่คบหาสมาคมกับผู้ที่มีความเห็นผิด ผู้ที่มี

ความเห็นผิดย่อมไม่คบหาสมาคมและไม่ยินดีในความเห็นถูก

ในพุทธกาล พระสารีบุตรชวนอาจารย์สัญชัย ให้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยกัน

ท่านก็ไม่ยอมไป ใครจะบังคับสภาพธรรมที่เกิดขึ้นสะสมมาแล้วในความเห็นถูกและ

ความเห็นผิด จิตสะสมมาอย่างไร กายวาจาและใจก็น้อมไปอย่างนั้นตามการสะสม ควรเริ่มจากตัวเราเป็นสำคัญ คิดจะจัดการคนอื่น ลืมความเป็นอนัตตาและการสะสมมาของสัตว์โลกที่มีอุปนิสัยต่างๆ กัน ไม่เช่นนั้นพระพุทธองค์ย่อมไม่ทรงแสดงไว้ว่า

ความเห็น มี 2 อย่างคือ ความเห็นถูกและความเห็นผิด ขออนุโมทนาครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 4 ส.ค. 2551
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา เป็นความจริงทั้งหมด

ทุกประการ พร้อมทั้งมีความละเอียด ลึกซึ้ง ลุ่มลึก ยากที่จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ผู้ที่ไม่ได้สั่งสมกุศลไว้ ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญ จึงหยั่งรู้ได้ยาก และเป็นที่พึ่ง

สำหรับบุคคลนั้นไม่ได้
แต่สำหรับผู้ที่ได้สั่งสมกุศลอบรมเจริญปัญญามา ก็ไม่เหลือวิสัยที่จะศึกษา ที่จะฟังจนกระทั่งมีความเข้าใจถูก เห็นถูก ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ นั้น กว่าที่ท่านจะได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ท่านก็ได้สั่งสมกุศล สั่งสมการสดับตรับฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มาแล้วทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้ว

การที่จะเข้าใจพระธรรม ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง จึงปฏิเสธการสั่งสมความเข้าใจมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ พร้อมทั้งการอบรมเจริญด้วยการฟัง การสนทนา การสอบถามในชาติปัจจุบันนี้ ไม่ได้เลย (เพราะได้สั่งสมบุญมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ จึงทำให้ได้มาเกิดในถิ่นที่เหมาะที่ควร มีโอกาสได้พบสัตบุรุษ พร้อมทั้งได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ และได้ตั้งตนไว้ชอบ) เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมถูกต้องตรงตามที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้ ผู้ที่มีอัธยาศัยในการเกื้อกูลบุคคลอื่นให้เข้าใจตาม ท่านก็ย่อมจะแสดงความเห็นที่ถูกต้อง แสดงแนวทางที่ถูกต้อง อย่างแน่นอน ที่สำคัญตนเองต้องเข้าใจเป็นปัญญาของตนเองก่อน จึงขอแสดงความเห็นเพื่อให้ผู้ศึกษาธรรมร่วมกัน ได้พิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่ง ครับ ...ขออนุโมทนาครับ... ..

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornchai.s
วันที่ 5 ส.ค. 2551

มีความเห็นผิดก็ย่อมมีความเห็นถูก

มีธรรมะ ที่เป็นฝ่ายเกิด (สังขารธรรม) ก็ย่อมมีธรรมะที่เป็นฝ่ายไม่เกิด่ (นิพพาน)

เป็นธรรมดาของสภาพธรรม ย่อมเป็นอย่างนี้

ในครั้งพุทธกาล มีครูทั้ง 6 สั่งสอนตามลัทธิของตนๆ ที่เป็นความเห็นผิด มีสาวก

จำนวนมากมายที่มีความเห็นผิดเหมือนกัน พระผู้มีพระภาคก็ยังไม่สามารถจะทำให้

สาวก เหล่านั้นมาเห็นถูกได้ โดยเฉพาะ ครูทั้ง 6 นั้น เปรียบเหมือนเส้นขนาน กับ

พระพุทธเจ้า (ไม่มีทางมาบรรจบกันได้) และครูทั้ง 6 ก็ไม่เคยพบพระพุทธเจ้าเลยจน

ตลอดชีวิต ขณะนี้ ครูทั้ง 6 และสาวกจำนวนมากมายนั้น ก็ยังอยู่ในนรก ครับ

ในอดีตชาติของท่านพระสารีบุตร เคย พยายามที่จะสอนให้คนทั้งหลายมามีความเห็น

เดียวกัน จนพระโพธิสัตว์ต้องมาอนูเคราะห์ โดยทำทีเป็นยกก้อนหินมาถมเหวให้ดู

พระสารีบุตรก็ถามพระโพธิสัตว์ว่า ทำอะไรอยู่หรือ พระโพธิสัตว์ก็ตอบว่า ต้องการจะ

ทำให้แผ่นดินในชมพูทวีปราบเรียบเสมอกันหมด พระสารีบุตรก็หัวเราะและกล่าวว่า

ท่านกำลังทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ตัวท่านต้องตายเสียก่อนเป็นแน่แท้ พระโพธิสัตว์จึง

กล่าวสอนพระสารีบุตรว่า ตัวท่านก็กำลังทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน คือจะทำให้คน

มามีความเห็นเดียวกันหมด พระสารีบุตรจึงระลึกถึงการกระทำของตัวเองได้ว่ากำลัง

ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 5 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Noparat
วันที่ 6 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาในความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 6 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ