มาเปิดประตูกันดีกว่า

 
ตุลา
วันที่  10 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8857
อ่าน  1,220

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

มีประโยชน์ทุกกาละในเมื่อเป็นผู้ฟังพระธรรมอย่างสม่ำเสมอ คือ ฟังไปๆ ก็ย่อมจะมีปัจจัยที่ทำให้กุศลธรรมเจริญ อกุศลลดคลายลง

คุณประโยชน์ของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง เปรียบเหมือนวางสิ่งของนับพันอย่างลงทุกประตูเรือนที่พระธรรมไปถึง แล้วแต่ผู้ใดจะเปิดประตูรับสิ่งของนั้นๆ ไว้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

รับครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนา สำหรับธรรมเตือนใจบทนี้ ด้วยนะครับ

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นความจริงทุกประการ มีประโยชน์กับบุคคลทุกระดับ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่จำกัดฐานะทางสังคม ผู้ที่ตั้งใจฟัง ตั้งใจศึกษา พิจารณาไตร่ตรอง ความเข้าใจย่อมจะเกิดมีแก่ผู้นั้น เนื่องจากในสังสารวัฏฏ์ เราเป็นผู้คุ้นเคยกับอกุศลมามาก และที่สำคัญเรื่องจิตใจเป็นเรื่องที่ระวังยาก การที่เราจะกำจัดหรือขัดเกลาอกุศลให้เบาบางลงนั้น ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนาน จนกระทั่งได้มีโอกาสฟังพระธรรม จึงได้รู้ว่าในแต่ละวันอกุศลของเรารอบด้าน (คือมีเยอะมาก) เมื่ออกุศลมีมาก ก็ต้องเริ่มเจริญกุศล อบรมเจริญปัญญา เพื่อขัดเกลากิเลสให้เบาบางลง ตั้งแต่ในชาตินี้ เพราะถ้าไม่เริ่มในชาตินี้ ชาติต่อๆ ไป ก็จะเป็นอย่างนี้อีก คือ เป็นผู้มากไปด้วยอกุศล ฉะนั้นแล้ว จะขอเปิดประตู น้อมรับพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้ด้วยการตั้งใจศึกษาพระธรรม เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ในหนทางที่จะเป็นไปเพื่อการดับกิเลส ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงไว้ เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติใดๆในโลก และเป็นสิ่งที่หาฟังได้ยาก ต้องเป็นผู้ที่เคยสั่งสมบุญมาจึงจะได้ยินได้ฟังค่ะ มีพระราชาองค์หนึ่งได้ยินคำว่าพุทธเจ้าอุบัติ ก็ให้ทรัพย์หนึ่งแสนกับผู้ที่มาส่งข่าว ได้ยินว่าพระธรรมอุบัติก็ให้ทรัพย์หนึ่งแสน ได้ยินว่าพระสงฆ์อุบัติก็ให้ทรัพย์อีกหนึ่งแสน แล้วก็ออกบวช ฝ่ายมเหสีได้ยินว่าพระพุทธเจ้าอุบัติก็ให้ทรัพย์สามแสน พระธรรมอุบัติก็ให้ทรัพย์อีกสามแสน พระสงฆ์อุบัติก็ให้ทรัพย์อีกสามแสนกับผู้มาส่งข่าว แล้วก็ออกบวชเช่นกัน ภายหลังท่านทั้งสองได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มาณพน้อย
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

อานิสงส์ของการฟังพระธรรม ๕ ประการ

๑. ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง ๒. สิ่งไหนได้ฟังแล้ว พอได้ฟังอีกก็ทำให้มีความเข้าใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น ๓. คลายความสงสัยเสียได้ ๔. ทำความเห็นให้ตรง ๕. จิตของผู้ฟังพระธรรม ย่อมผ่องใส 

พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ไม่ได้ทรงปรารถนาอะไรจากผู้ฟังพระธรรมเลย นอกจากประโยชน์ของผู้ฟังพระธรรม ที่จะเข้าใจสภาพธรรมได้ถูกต้องยิ่งขึ้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ย่อมทำประโยชน์ให้เต็มแก่ผู้มีมิตรดี ผู้ตั้งใจฟังด้วยดี ผู้เชื่อถือ เหมือนยาเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ หาเป็นประโยชน์แก่คนผู้ไม่ใช้ ไม่ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

เปิดประตูและหน้าต่างไว้ทุกบาน ทุกด้านของที่พักพิงอาศัยเพื่อการน้อมไปในการฟังพระสัทธรรม เพื่อการจักได้ออกไปในกาลข้างหน้า เพื่อความไม่ประมาทในการสำรวจโดยรอบในอกุศลธรรมซึ่งย่อมมีมาได้ในทิศทั้งปวง

ขออนุโมทนาคุณตุลา

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในผู้ให้ความรู้ความคิดเห็นเพิ่มเติมทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นวล
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

หน้าที่ ๒๔๔ ความเศร้าหมองของบารมี ๑๐ หนังสือ บารมีในชีวิตประจำวัน

การแสดงพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดง เพื่อประโยชน์แก่สัตว์โลกนั้น ดุจวางสิ่งของนับพันอย่างลงทุกประตูเรือนที่พระธรรมไปถึง ใครจะเปิดประตูรับสมบัติมหาศาลที่กองไว้ให้ที่หน้าประตูเรือน หรือว่าบางคนอาจจะไม่เปิดประตูเลย ก็แล้วแต่ว่าจะเห็นคุณของพระธรรมหรือไม่ การไม่เห็นคุณของพระธรรมนั้น เป็นไปตามอวิชชาของแต่ละบุคคล การฟังพระธรรมนั้น มีประโยชน์ทุกกาล แม้ว่าบางโอกาสไม่อาจประพฤติปฏิบัติตามได้ แต่เมื่อฟังไปๆ ก็ย่อมมีปัจจัยที่จะทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้นและอกุศลก็ค่อยๆ ลดลง จึงทำให้เห็นคุณประโยชน์ของพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้ ซึ่งเปรียบเสมือนกับการวางสิ่งของนับพันอย่างลงทุกประตูเรือนที่พระธรรมไปถึง


 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Apologize
วันที่ 10 มิ.ย. 2551

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...

พุทธประสงค์จะทรงแสดงธรรม [พุทธวงศ์]

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 7 โดย Apologize

[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ ๕๐ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า อันพรหมทูลอาราธนาเพื่อทรงแสดงธรรมแล้ว ทรงยังพระมหากรุณาให้เกิดในสัตว์ทั้งหลาย มีพุทธประสงค์จะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถาแก่พรหมทั้งหลายว่า

ดูก่อนพรหม ประตูทั้งหลายแห่งอมตนคร เราเปิดสำหรับท่านแล้วละ ขอเหล่าสัตว์ที่มีโสตประสาทจงปล่อยศรัทธาออกมาเถิด แต่ก่อนเราสำคัญว่าจะลำบากเปล่าจึงไม่กล่าวธรรมอันประณีตที่ชำนาญในหมู่มนุษย์ การได้ยินกับการตั้งใจฟังนั้นต่างกัน ดังนั้นเมื่อเห็นคุณของพระธรรมอันเกิดจากปัญญาและที่ศรัทธาที่เกิดขึ้น จึงปล่อยศรัทธา คือเคารพตั้งใจฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรง แสดงเป็นการเปิดรับของแล้วที่หน้าบ้าน และควรนำของไปใช้ ได้ยิน ฟังพระธรรมแล้ว ควรเป็นไปเพื่อน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ เห็นโทษแม้มีประมาณน้อยในอกุศล และไม่ลืมจุดประสงค์คือ เข้าใจสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ นี่คือประโยชน์ของการเมื่อได้รับของแล้วจากการเปิดประตู

สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
prakaimuk.k
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาในความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ ขอน้อมรับไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ให้ระลึกถึงพระมหากรุณาคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ทรงตัดสินพระทัย กล่าวธรรมอันประณึตที่ชำนาญในหมู่มนุษย์ เพื่ออนุเคราะห์ให้เกิดความเห็นถูกเข้าใจถูก เห็นพระคุณของพระธรรม เห็นประโยชน์ของการศึกษาการฟังพระธรรมดัวยความตั้งใจจริง เป็นการ เปิดประตูรับอริยทรัพย์อันมีค่าสูงสุดเอาไว้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
suwit02
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

สาธุ

เป็นมนุษย์สุดดีมีโอกาส มีปัญญาฉลาดกว่าสัตว์ทั้งผอง ขอชวนเชิญให้ท่านได้ไตร่ตรอง รับพระธรรมมาประคองกับดวงใจ เป็นอุปนิสัยปัจจัยในภพหน้า เป็นปัญญาบารมีชี้แจ่มใส เพื่อไม่หลงเพลิดเพลินเมื่อเดินไป เชิญท่านไซร้เปิดใจรับสดับธรรม.

ที่มา : วิทยุยานเกราะ
คัดลอก/ดัดแปลง: suwit02

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สุภาพร
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงพระมหากรุณาคุณแก่สัตว์โลกทั้งหลายให้ได้ยินได้ฟังพระสัทธรรมอันประเสริฐสุดในโลก ข้าพเจ้าขอให้มีปัญญาที่สามารถเปิดประตูรับของเหล่านั้น เพื่อเข้าใจถูก เห็นถูก เพื่อละคลายกิเลสทั้งหลายให้เบาบางลงได้ และขออนุโมทนา คุณตุลา ที่คัดข้อความมาให้อ่านให้คิดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
choonj
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

ขออ้างถีงคำกล่าวของอาจารย์ นิภัทร ที่กล่าวไว้ไนวันสนทนาธรรมโรงพยาบาลพระมงกุฎครั้งล่าสุด ซี่งมีขอความโดยย่อดังนี้. "ผลแห่งการเปิดประตูฟังธรรม จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ๖ อย่าง คือ โศก ปริเทวะทุกข์ โทมนัส และ อุปายาส เบาบางลง และยังได้อานิสงค์อีก ๒ อย่าง คือได้เป็นพระอริยบุคคล จนเป็นพระอรหันต์" เมื่อเริ่มฟังทุกข์ก็เริ่มลดลงแล้ว และเมื่อปล่อยศรัทธาที่มีกำลังจนฟังธรรมแล้วเข้าใจ ฟังไห้เป็นธรรมะไม่ใช่เรา ก็รอดตาย.

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wirat.k
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
เมตตา
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

มาเปิดประตูเข้าใจพระธรรมที่ทรงแสดงในขณะที่กำลังฟังกันดีกว่า ฟังไปๆ ถ้าไม่เข้าใจธรรมที่กำลังฟังอยู่ ก็ไม่สามารถเป็นเหตุปัจจัยให้กุศลธรรมเจริญขึ้น สาระแก่นแท้ของพระธรรมอยู่ที่ความเข้าใจ สภาพธรรมที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ไม่มีตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ขณะที่เข้าใจธรรมที่กำลังฟังอยู่ ขณะนั้นสภาพธรรมปฏิบัติกิจของธรรมอยู่แล้ว จึงไม่มีตัวตนใครคนใดคนหนึ่งที่จะปฏิบัติหรือไปทำอะไรทั้งสิ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
นิโรธะ
วันที่ 11 มิ.ย. 2551

ปิดครับปิด ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ปิดอายตนะภายในไม่ให้อกุศลเข้าเด็ดขาด

แต่เปิดครับ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้กุศลหรือพระธรรมเข้าครับ

สาธุการทุกคำตอบครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
orawan.c
วันที่ 12 มิ.ย. 2551

เมื่อมีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากแก่การเข้าใจ แต่พวกเรามีบุญที่มีโอกาสพบกัลยาณมิตรคือ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ โดยท่านได้ช่วยแสดงพระสัทธรรมให้คนรุ่นเราพอเข้าใจได้บ้างตามกำลังของปัญญา จึงรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อเริ่มเข้าใจพระสัทธรรม คือเปิดประตูรับ จึงพบว่า สิ่งที่มีค่าและมีสาระสำคัญที่สุดของชีวิตก็คือการเข้าใจพระสัทธรรมนั่นแอง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
nok_ruuh
วันที่ 13 มิ.ย. 2551

ธรรมใดๆ ก็ไร้ค่าถ้าไม่ทำ ๑. เปิดใจรับฟัง ๒. ตั้งใจคิดตาม แยกแยะถูกผิด ๓. ลงมือปฏิบัติ ๔. เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงในธรรม ๕. เสวยผลคือวิมุติ เรียกว่าบันได ๕ ขั้น กับการเปิดประตูธรรม

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ