คุณของพระนิพพาน

 
สารธรรม
วันที่  28 พ.ค. 2551
หมายเลข  8745
อ่าน  2,714

ขอกล่าวถึง อานิสงส์ของการเจริญ อุปสมานุสสติ ข้อความในวิสุทธิมรรค อนุสสติกัมมัฏฐานนิทเทส เรื่องของอุปสมานุสสติมีข้อความว่าพึงอนุสรณ์ถึงธรรมเป็นที่เข้าไปสงบ กล่าวคือ พระนิพพาน
ด้วยสามารถแห่งคุณ มีความเป็นธรรมเป็นที่สร่างเมา เป็นต้นเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้เทอญ ก็หรือพึงระลึกถึงวิราคะธรรมนั้นด้วยสามารถแห่งธรรมอันเป็นที่เข้าไปสงบแม้เหล่าอื่น ซึ่งพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในพระสูตรทั้งหลาย เป็นต้นว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมอันไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งแก่พวกเธอ และเราจักแสดงสัจธรรม ธรรมเป็นเหตุข้ามฝั่ง และธรรมที่บุคคลเห็นได้ยากยิ่ง ธรรมอันเป็นแดนเกษม ธรรมที่ไม่เคยมีธรรมที่ไม่มีเสนียด ธรรมที่ไม่ต้องเดือดร้อน ธรรมที่เป็นเกาะ ธรรมเป็นที่ต้านทาน และธรรมเป็นที่หลีกเร้นแก่พวกเธอ ดังนี้แล


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
สารธรรม
วันที่ 28 พ.ค. 2551

ถ้าไม่ใช่ผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐานแล้วไม่สามารถที่จะเข้าใจถึง คุณของพระนิพพาน ได้แต่เมื่อเริ่มอบรมเจริญสติปัฏฐาน รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน และรู้ถึงความไม่เที่ยง เมื่อนั้นจึงจะน้อมไประลึกถึงสภาพธรรมที่เป็นสัจธรรม ที่เป็นเหตุข้ามฝั่ง และเป็นธรรมที่บุคคลเห็นได้ยากยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สารธรรม
วันที่ 28 พ.ค. 2551

เพราะเหตุใดคะ เพราะนามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏ ก็ยังเห็นไม่ได้เลย ใช่ไหมคะ เป็นนามธรรม ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เป็นรูปธรรมซึ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน สภาพธรรมที่มีปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ก็ยังไม่รู้ชัดว่าไม่ใช่ตัวตน เพราะเป็นนามธรรมแต่ละลักษณะ เป็นรูปธรรมแต่ละลักษณะ เมื่อยังไม่ประจักษ์อย่างนี้ แล้วจะไปประจักษ์ลักษณะของนิพพานซึ่งเป็นธรรมที่เห็นได้ยากยิ่งได้อย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
สารธรรม
วันที่ 28 พ.ค. 2551

เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญปัญญาต้องอบรมเป็นขั้นๆ ตั้งแต่โลกียปัญญา คือ ปัญญาที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดดับ ซึ่งเป็นโลก เป็นโลกียะที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แล้วจึงน้อมไปถึงอมตธาตุสภาพธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นสภาพธรรมเป็นที่สร่างเมา เป็นสภาพธรรมที่ยั่งยืน ไม่คร่ำคร่า เป็นสภาพธรรมที่ไม่มีเนิ่นช้า เป็นสภาพธรรมที่เป็นอมตะ ธรรมที่เยือกเย็น ธรรมอันเป็นแดนเกษม

บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ข้อความบางส่วนจาก ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๘๓๒

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 28 พ.ค. 2551

ท่านพระภัททิยะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ เปล่งอุทานเนืองๆ ว่าสุขหนอ สุขหนอ เพราะฉะนั้น สุขอื่นยิ่งกว่านิพพานไม่มีค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 28 พ.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
อนุโมทนา
วันที่ 28 พ.ค. 2551

เป็นเรื่องของปัญญาจริงๆ

อนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 29 พ.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
นิบภาณ
วันที่ 29 พ.ค. 2551

นิพพาน ไม่สัมปยุตต์ด้วยสุขเวทนา (ไม่มีความรู้สึกเป็นสุขเกิดร่วมด้วย) เหตุใดจึงกล่าวว่าสุขอื่นยิ่งกว่านิพพานไม่มี

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
study
วันที่ 30 พ.ค. 2551

สุขในพระนิพพานมิได้หมายถึงสุขเวทนา แต่เป็นสุขที่ไม่มีสังขารใดๆ เลยสังขารทั้งหลาย (ขันธ์ห้า) เป็นทุกข์ การปราศจากสังขารทั้งหลายจึงเป็นสุข

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 30 พ.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 30 พ.ค. 2551

คุณของพระนิพพาน เป็นที่ระงับแห่งทุกข์ท้ังมวล อานิสงฆ์ของการเจริญอุปสมานุสติ จากวิสุทธิมรรคกล่าวว่า "ก็แลภิกษุผู้ประกอบอุปสมานุสตินี้ ย่อมหลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข เป็นผู้มีอินทรีย์สงบ มีใจสงบ ถึงพร้อมด้วยหิริโอตตัปปะ น่าเลื่อมใส มีอัชฌาสัยประณีต เป็นที่เคารพและยกย่องแห่งสพรหมจารีทั้งหลาย อนึ่ง เมื่อยังไม่บรรลุคุณที่สูงขึ้นไป ย่อมเป็นผู้มีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า

แต่สี่งที่สำคัญที่จะถึงพระนิพพาน ซึ่งเป็นที่ระงับแห่งทุกข์ทั้งมวลนั้น ก็มีหนทางเดียวคือ เป็นผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน ฉะนั้นจึงควรศึกษาพระธรรมให้เข้าใจพระธรรมให้ถูกต้อง ในชีวิตประจำวันควรอบรมเจริญปัญญา รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
narong.p
วันที่ 1 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาในทุกความเห็น

และกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
mana.amo
วันที่ 19 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 8 มิ.ย. 2564

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ