การบวชให้พ่อแม่

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ควรทราบว่าบวชเพื่ออะไร และสิ่งใดคือสิ่งที่ควร สำหรับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วสำหรับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วนั้น สิ่งที่สมควรสำหรับเขา คือการอุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่ต้องไม่ลืมว่า สิ่งนั้นต้องเป็นกุศล หากไม่เข้าใจก็สำคัญว่า สิ่งที่ทำเป็นกุศลแล้วก็อุทิศไป หากญาติไม่อยู่ในฐานะที่จะรับได้ (เป็นเปรต) หรือไม่อนุโมทนา อันเนื่องมาจากไม่ทราบ หรือเพราะสิ่งนั้นไม่เป็นกุศล ดังนั้น ขณะที่บวช ขณะนั้นเป็นบุญอย่างไร เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่เป็นกุศล เมื่อทำแล้วสามารถอุทิศให้ผู้ล่วงลับได้ และการทำกุศลไม่จำเป็นต้องบวชครับ ถ้าไม่บวชก็ทำกุศลแล้วก็อุทิศได้ครับ

ขออนุโมทนา

ข้อความบางตอนจาก...

ว่าด้วยบุคคลไม่ตระหนี่ [ปิฏฐธีตลิกเปตวัตถุ]

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

ไม่ว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไป ลูกหลานควรศึกษาธรรมะ ให้เกิดความเข้าใจถูกว่า ผู้ที่จะบวชได้ ต้องเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยใหญ่ จึงจะสามารถสละอาคารบ้านเรือน บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย และโภคทรัพย์ทุกอย่างได้ จากนั้นจึงจะหันมาใช้ชีวิตที่จะเป็นผู้ไม่คลุกคลี มีจิตสงบ สันโดษ เป็นผู้มักน้อย และอบรมเจริญปัญญา เป็นต้น ผู้ที่จะบวช ต้องเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจตนเอง ตามความเป็นจริงว่า ถ้าจะบวช จะบวชเพื่ออะไร ถ้าจะไม่บวช หรือบวชไม่ได้ มีเหตุจำเป็นอะไร ผลจากบวชหรือไม่บวชให้ใคร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้ใดเลย แต่ขึ้นอยู่กับการสะสมเหตุปัจจัยฝ่ายดีมาที่จะบวช จึงบวช หรือมีเหตุที่บวชไม่ได้ จึงไม่บวช ตัวอย่างเช่น ท่านฆฏิการะช่างหม้อ ท่านได้บรรลุเป็นถึงพระอนาคามีบุคคล แต่ท่านไม่บวช เพราะต้องเลี้ยงดูบิดามารดาที่ตาบอด ซึ่งก็เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีที่ดีได้ ตามวิสัยของผู้ที่ไม่บวช และเป็นถึงพระอริยเจ้าด้วยอ

นุโมทนาครับ

ครั้งพุทธกาล คนที่สะสมอุปนิสัยมา เห็นโทษของการครองเรือน จึงออกบวช เพื่อจุดมุ่งหมายคือการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน ต่างจากยุคปัจจุบันมาก บวชเพราะอยากบวช เพราะประเพณี

ขออนุโมทนาครับ