เร่งรีบไปไหน โดยไม่รู้ ไม่เข้าใจ
สติปัฏฐาน ไม่ใช่หมายความว่า มีใครไปบอกว่า ฟังแค่นี้ แล้วก็เจริญสติปัฏฐานได้ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย ลืมอีกแล้ว ธรรมเป็นอนัตตา ฟังอย่างไร ฟังไปลืมไปๆ เรื่อยๆ
ต้องเตือนกันบ่อยๆ ว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา สติเกิดเดี๋ยวนี้ได้แน่นอน ไม่มีใครไปยับยั้งเมื่อมีเหตุปัจจัย แล้วใครจะรู้ว่า ปัจจัยพร้อมที่จะให้สติสัมปชัญญะเกิดเข้าใจลักษณะของธรรมตรงตามที่ได้ยินได้ฟังทีละอย่าง ทีละลักษณะ เพราะว่าสภาพธรรมหลากหลายมาก มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย
สภาพธรรมใดดับไปแล้ว ไม่ได้กลับมาอีก ก็เป็นสภาพธรรมใหม่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย
ด้วยเหตุนี้ฟังแล้วก็ เป็นผู้ตรง ไม่ใช่เป็นผู้ที่รีบร้อน ถ้ามีข้อความในพระไตรปิฎกว่าเป็นผู้ไม่ประมาท เร่งรีบ ก็ต้องรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงว่า เร่งรีบไปไหน โดยที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจอะไรเลย เร่งรีบทำอะไรในเมื่อไม่รู้
เร่งรีบ คือ จะรู้ได้โดยวิธีไหน ถ้าโดยการฟัง ไม่ประมาทที่จะฟัง เท่าที่จะสามารถฟังได้

