โลกสว่าง กับ โลกมืด

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  14 ก.ย. 2568
หมายเลข  50942
อ่าน  635

ส่วนใหญ่แล้วโลกที่ทุกคนเข้าใจว่าสว่างนี้ ความจริงมืด ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นโลกมืด ไม่ใช่โลกสว่างเหมือนอย่างทางตา ถ้าศึกษาพระธรรมโดยละเอียด จะทำให้เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมได้ เมื่อได้พิจารณาโดยถูกต้อง


เปิดฟัง ...

เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม

อย่างท่านผู้หนึ่งท่านถามว่า ที่ว่าทวารอื่น คือ ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นโลกมืด ไม่ใช่โลกสว่างเหมือนอย่างทางตานั้น มีกล่าวไว้ที่ไหน ในพระไตรปิฎก

ถ้าจะพิจารณาธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ย่อมรู้ว่ามีกล่าวไว้ตั้งแต่ทรงแสดงเรื่องของ ทวารทั้ง ๖ คือ ในขณะที่พระผู้มีพระภาคตรัสถามพระสาวกว่า ทางตา จักขุวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง ขณะนี้สภาพธรรมอะไรกำลังปรากฏทางตา มืดหรือสว่าง สิ่งที่ปรากฏ ปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาทเป็นสีสันวัณณะต่างๆ ทำให้เข้าใจ ในรูปร่างสัณฐานของสิ่งที่ปรากฏทางตา และเวลาที่พระผู้มีพระภาคตรัสถามเรื่อง ทางหู เช่น โสตวิญญาณไม่เที่ยง โสตวิญญาณไม่ใช่จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ เป็นสภาพที่ได้ยินเสียง เสียงไม่มีรูปร่างสัณฐานเลย ในขณะที่หลับตาก็ยังได้ยินเสียง เพราะฉะนั้น ทวารอื่นทั้งหมด คือ ทางหูก็ดี ทางจมูกก็ดี ทางลิ้นก็ดี ทางกายก็ดี ทางใจก็ดี ไม่สว่าง เพราะว่าไม่ใช่ทางจักขุทวาร ไม่จำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งในพระไตรปิฎกที่จะต้องกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วโลกที่ทุกคนเข้าใจว่าสว่างนี้ความจริงมืด เพราะว่าทวารที่ปรากฏความสว่างมีเพียงทวารเดียว คือ จักขุทวาร นอกจากนั้น ทวารอื่นมืดทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น ถ้าโลกมืดปรากฏตามความเป็นจริง ที่จะให้รู้ลักษณะของ สภาพธรรมที่ปรากฏเพียงแต่ละอย่าง เช่น เพียงหลับตา ตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้าหาย ไปหมด เหลือแต่เพียงลักษณะของรูปเพียงเล็กๆ น้อยๆ นิดๆ หน่อยๆ ที่จะปรากฏเมื่อกระทบกับส่วนหนึ่งส่วนใดที่แข็งเท่านั้นเอง ใช่ไหม ฟันไม่มี ตาไม่มี แขนไม่มี หัวใจ ปอด ตับ อะไรก็ไม่มีทั้งนั้น เพราะว่ามีอยู่แต่เพียงในความทรงจำเท่านั้น แต่ลักษณะสภาพธรรมจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ไม่ต้องจำ แต่มีลักษณะปรากฏ ที่ให้เห็นความเป็นอนัตตา และการอยู่ในโลกที่ไม่สว่าง นอกจากขณะที่เห็นเท่านั้น

ถ้าศึกษาพระธรรมโดยละเอียด จะทำให้เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมได้ เมื่อได้พิจารณาโดยถูกต้อง [ตอนที่ 1544]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ก.ย. 2568

ทรงแสดงเรื่องของทวารทั้ง ๖ สภาพธรรมอะไรกำลังปรากฏทางตา มืดหรือสว่าง สิ่งที่ปรากฏ ปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาทเป็นสีสันวัณณะต่างๆ ทำให้เข้าใจในรูปร่างสัณฐานของสิ่งที่ปรากฏทางตา โสตวิญญาณไม่ใช่จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ เป็นสภาพที่ได้ยินเสียง เสียงไม่มีรูปร่างสัณฐานเลย ในขณะที่หลับตาก็ยังได้ยินเสียง ทวารอื่นทั้งหมด คือ ทางหูก็ดี ทางจมูกก็ดี ทางลิ้นก็ดี ทางกายก็ดี ทางใจก็ดี ไม่สว่าง เพราะว่าไม่ใช่ทางจักขุทวาร [ตอนที่ 1544]

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ