สนทนาธรรมที่เวียดนาม เช้า 9/9/68

 
nattawan
วันที่  9 ก.ย. 2568
หมายเลข  50904
อ่าน  274

การจากไปของคุณฮังที่ศรีลังกานั้นเป็นธรรมดาของชีวิตที่มีการเวียนว่ายตายเกิด เราคิดถึงความตั้งใจของเธอที่เข้าใจธรรมะที่ลึกซึ้ง และคุณฮังเป็นตัวอย่างที่ดีในการศึกษาธรรมะ

การศึกษาธรรมะเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งเพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ฟังธรรมะ

ทุกขณะที่เกิดขึ้นดับหมดแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าขณะต่อไปจะเป็นอย่างไร ... เป็นพระมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าที่ทำให้เข้าใจถูก

เมื่อหลับไปและตื่นขึ้นมาก็เป็นจิตดวงใหม่ เป็นธรรมดาในสังสารวัฏ

ขอให้คุณฮังเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านไตร่ตรองฟังอย่างละเอียด และอบรมเจริญกุศลทุกทาง ที่สำคัญคือไม่มีและไม่เคยมีคุณฮัง เป็นเพียงสภาพรู้ที่เกิดขึ้นและดับไป

ขอบคุณคุณซาร่าในคำที่เป็นประโยชน์ ฉากหลังเป็นข้อความจากอังคุตตรนิกาย เป็นคำที่ทำให้คิดถึงคุณฮังและสิ่งที่สวยงามในชีวิต เตือนให้นึกถึงกระเบื้องที่แตกไปแล้ว สิ่งที่เรายึดถือติดข้องดับไปหมดแล้ว ... สำหรับผู้ไม่รู้ก็โศกเศร้าเสียใจ ... แต่สำหรับผู้รู้ ... รู้ว่าทุกอย่างเกิดและดับไป

ความจริงเรามีชีวิตอยู่ผู้เดียว เราเห็น ... หนึ่งขณะที่เห็นไม่มีใครรู้ได้ ... พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเราเป็นทายาทของกรรม อย่างหนึ่งคือความตาย สิ่งที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้คือเห็น ... ได้ยิน ... ไม่มีใครทำให้เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเราศึกษาเพื่อให้รู้ว่าเรามีชีวิตอยู่ผู้เดียว

Vietnamese Dhamma discussion Tue 9th Sep 2025 (Morning)

Intl Dhamma discussion :

แปลไทย :

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 9 ก.ย. 2568

เห็น ... ได้ยิน ... คิด ... ทุกขณะมีจริงๆ ถ้าไม่ได้มีสภาพรู้โลกก็ไม่ปรากฏอะไรๆ ก็ไม่ปรากฏ ทุกอย่างเกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา ความเข้าใจนั่นเองค่อยๆ ละความไม่รู้และความเป็นเราทีละเล็กทีละน้อย

เข้าใจสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ไม่ว่าอะไรเกิด ... เกิดเพราะเหตุปัจจัย ธรรมะเป็นอนัตตา ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด มีแต่สิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งแต่ละขณะ ... จริงไหม?!

เข้าใจธรรมะ ไม่ใช่จำคำ ธรรมะไม่ได้เกิดตามความต้องการแต่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ใครจะทำให้รู้แต่อารมณ์ที่ดีและไม่รู้อารมณ์ที่ไม่ดีไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นธรรมะเกิดเพราะเหตุปัจจัย

เกิดมาเพื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรสกระทบสัมผัสทั้งวันทุกวันตามปัจจัยเหมือนที่เกิดมานานแสนนานในสังสารวัฏ เกิดและดับ ... มีประโยชน์อะไร?? แต่ไม่มีใครสามารถหยุดได้เพราะไม่มีใครทำให้เกิดและไม่เกิดได้

เราศึกษาเพื่อเข้าใจว่าปัจจัยอะไรทำให้เห็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ถ้าไม่มีตาก็ไม่เห็น ถ้าไม่มีสิ่งที่กระทบตาเห็นก็เกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นเห็นเกิดเพราะเหตุปัจจัย ... ไม่มีใครทั้งสิ้นตั้งแต่เกิดจนตาย ... ทุกชาติไม่หยุด ... จริงไหม?!

ไม่หยุดเลย ... เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรสกระทบสัมผัสจริงไหม?! แต่คิดนึกไม่ใช่เห็น แม้เห็นสิ่งเดียวกันบางคนก็ชอบและไม่ชอบตามการสะสม

ศึกษาให้รู้ทีละเล็กทีละน้อยให้รู้ว่ายากมากที่จะไปพยายามละคลายด้วยความเป็นเรา ความไม่รู้ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ ... เป็นสภาพธรรมที่ไม่เข้าใจถูกตามความเป็นจริง

มีสภาพธรรมะมากมายหลายประเภทมีลักษณะและกิจหน้าที่เฉพาะของตนๆ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของสภาพธรรมะเดี๋ยวนี้คือไม่เข้าใจเห็นตามความเป็นจริง!!! เห็นไหมว่าธรรมะละเอียดลึกซึ้งมาก ยังไม่สามารถเฉียบแหลมและมั่นคงได้ เพราะได้ฟังเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถรู้ได้เพียงแค่การฟัง จึงมีอริยสัจสามรอบ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ขึ้นกับความเข้าใจเท่านั้น ... เดี๋ยวนี้มีความเข้าใจมากแค่ไหน??

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ก.ย. 2568

ศึกษาให้รู้ทีละเล็กทีละน้อย ให้รู้ว่ายากมากที่จะไปพยายามละคลายด้วยความเป็นเรา ความไม่รู้ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ เป็นสภาพธรรมที่ไม่เข้าใจถูกตามความเป็นจริง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ