จะรู้ธรรมะขณะไหน?

[เล่มที่ 66] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 423
... "ประคองความเพียรไว้ในที่ที่ทำกุศลกรรม ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ประคองธุระไว้ ชื่อว่า วิริยินทรีย์ เพราะ ทำความเป็นใหญ่ในลักษณะประคองไว้. ชื่อว่า วิริยพละ เพราะไม่หวั่นไหวไปในความเกียจคร้าน. ชื่อว่า สัมมาวายามะ เพราะพยายามในกุศล อันนำสัตว์ออกไปจากทุกข์ ได้แน่นอน
บทว่า วีริยารมฺภกถา กถาปรารภความเพียรนี้ มีความว่า ภิกษุ ใดเป็นผู้ประคองความเพียรไว้ เป็นผู้มีความเพียรทางกาย และทางจิต บริบูรณ์ ในเวลาเดิน ก็ไม่ให้กิเลสเกิด ในเวลายืน นั่ง นอน ก็ไม่ให้ กิเลสเกิด ประพฤติดุจจับบีบงูเห่าด้วยมนต์และดุจเหยียบศัตรูที่คอ กล่าว สรรเสริญคุณของผู้ปรารภความเพียรเช่นนั้น ชื่อว่ากล่าว วีริยารัมภกถา.
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 665
อารัพภวัตถุสูตร
[๑๘๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อารัพภวัตถุ ๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องทำการงาน เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราจักต้องทำการงานแล ก็เมื่อเราทำการงานอยู่ ไม่พึงทำมนสิการคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหลายได้ง่าย ผิฉะนั้น เราจะรีบปรารภความเพียรเสียก่อน เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้ง ธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง เธอปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง นี้เป็นอารัพภวัตถุประการที่ ๑.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุทำการงานแล้ว เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราได้ทำการงานแล้ว ก็เมื่อเราทำการงานอยู่ ไม่สามารถมนสิการ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ ผิฉะนั้น เราจะปรารภความ เพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อ ทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง เธอปรารภความเพียร เพื่อถึง ธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรม ที่ยังไม่ทำให้แจ้ง นี้เป็นอารัพภวัตถุประการที่ ๒.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุต้องเดินทาง เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราจักต้องเดินทาง ก็เมื่อเราเดินทางอยู่ ไม่พึงกระทำมนสิการ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ง่าย ผิฉะนั้น เราจะปรารภ ความเพียร ฯลฯ นี้เป็นอารัพภวัตถุประการที่ ๓.
อ.คำปั่น: ท่านอาจารย์ครับ ที่ได้ฟังเมื่อท่านอาจารย์ก็ได้กล่าวข้อความที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลอย่างยิ่ง เป็นเครื่องเตือนอย่างยิ่งเลยครับว่า ฟังธรรมะเพื่อเข้าใจว่า ธรรมะคือเดี๋ยวนี้ ครับ เพื่อความเข้าใจที่มั่นคงว่า ธรรมะคือเดี๋ยวนี้
ท่านอาจารย์ครับ เวลาได้ฟังก็สะสมความเข้าใจว่า คือธรรมะไม่ต้องไปหาที่ไหน ก็มีจริงๆ ในขณะนี้ ทุกขณะก็ไม่พ้นจากธรรมะเพราะว่า มีธรรมะเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดครับ นี้คือขั้นการฟังก็สะสมความเข้าใจครับ
ทีนี้มีอยู่ข้อความหนึ่งครับที่ได้ฟังที่ท่านได้กล่าว ซึ่งขอโอกาสท่านอาจารย์ในความละเอียดด้วยว่า รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้เท่านั้น อันนี้ก็เป็นคำที่ลึกซึ้งมากครับ อย่างที่ท่านอาจารย์ถามว่า เมื่อวานมีสติไหม? แล้ววันนี้มีสติไหม? ก็เป็นการได้คิดถึงเรื่องของธรรมะที่เกิดขึ้นแล้วว่า ขณะที่เป็นกุศลที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้นที่มีการฟังธรรมะ มีการสนทนาธรรมะ มีการเกื้อกูลกันในทางธรรมะ ก็ต้องเป็นกุศลก็ต้องเป็นสติ แต่ว่าขณะนั้นไม่ได้รู้ตรงตามความเป็นจริงเลยครับ แต่หลังจากนั้นก็มีการคิดถึงเรื่องของธรรมะที่เกิดแล้วดับแล้ว แต่ว่าไม่ได้รู้ตรงลักษณะของธรรมะที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนั้นเลยครับ
กราบเท้าท่านอาจารย์ในความละเอียดตรงที่ว่า รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้เท่านั้น
ท่านอาจารย์: จะรู้ธรรมะขณะไหน?
อ.คำปั่น: ก็ต้องในขณะนั้นที่เกิดขึ้นครับ
ท่านอาจารย์: ก็ตรงแล้วใช่ไหม?
อ.คำปั่น: ไม่ใช่ขณะอื่นเลยต้องขณะนั้น แต่ว่ายังไม่ถึงครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ปัญญารู้ตรงความจริง สัจจบารมี ยังไม่ถึงแน่!! จะถึงได้อย่างไร รู้แค่นี้เอง!! พระโพธิสัตว์ได้ฟังคำนี้มาก่อนไหม?
อ.คำปั่น: ได้ฟังแน่นอนครับ
ท่านอาจารย์: และกว่าจะถึงการรู้แจ้งสิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้ นานไหม?
อ.คำปั่น: นานมากครับ
ท่านอาจารย์: ยังสงสัยอะไรอีก?
อ.คำปั่น: ท่านอาจารย์เตือนมากเลยครับ ความเข้าใจยังไม่พอ ก็ต้องสะสมความเข้าใจต่อไป ฟังต่อไป ศึกษาต่อไป คำที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวเมื่อสักครู่ก็เป็น ถ้อยคำที่เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร เป็นไปเพื่อความจริงใจ อดทนเพื่อที่จะฟังที่จะศึกษาสะสมความเข้าใจต่อไปครับ ก็ต้องฟังต่อไปจริงๆ ครับท่านอาจารย์ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่..
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ด้วยความเคารพค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อีกประการหนึ่ง ภิกษุหายจากอาพาธแล้ว แต่ยังหายไม่นาน เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราหายจากอาพาธแล้ว แต่ยังหายไม่นาน การที่อาการของเราจะพึงกลับกำเริบนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ผิฉะนั้น จะรีบปรารภความเพียรเสียก่อน เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุ ธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อกระทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง เธอปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ. เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง นี้เป็นอารัพภวัตถุ ประการที่ ๘ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอารัพภวัตถุ ประการนี้แล (อารัพภวัตถุสูตร)
ยินดีในกุศลจิตครับ


