นิยตโพธิสัตว์ตกนรกขุมเล็กๆ ได้ไหม

 
วินัย ไกรสีห์
วันที่  13 ส.ค. 2568
หมายเลข  50664
อ่าน  123

เช่นในคราวที่เกิดเป็นเตมียะกุมารนอนอยู่บนตักพระราชบิดาซึ่งทำการตัดสินให้เพชฌฆาตตัดมือตัดเท้าและสั่งประหารนักโทษ (สั่งประหารหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ)

เตมียะกุมารจึงระลึกถึงชาติที่พระองค์ก็เคยเกิดเป็นพระราชาในเมืองนี้และได้ทำแบบพระราชบิดามาก่อนทำให้ไปตกนรกอยู่ 80,000 ปี (มนุษย์)

อีกเรื่องหนึ่งคือว่านิยตโพธิสัตว์จะทรงเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานไม่ใหญ่กว่าช้าง..ไม่เล็กกว่านกกระจาบมีว่าไว้ในพระไตรปิฎก/อรรถกถาหรือไม่ และที่พระองค์ทรงเกิดเป็นพญาช้างฉัททันต์ และกระต่ายสสบัณฑิตนั้นเกิดขึ้นในกัปป์นี้หรือไม่ครับ

อนุโมทนาอาจารย์คำปั่น (ปธ.๙) ที่เจียดเวลาจากงานที่มากมายมาตอบคำถามให้ผู้สงสัยในเว็บไซต์นะครับ สาธุ..สาธุ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 13 ส.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่ข้องอยู่ในการตรัสรู้ บำเพ็ญบารมีคุณความดีประการต่างๆ เพื่อถึงการตรัสรู้ พระโพธิสัตว์มี ๒ ประเภท คือ

๑. นิยตพระโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ย่อมเที่ยงแท้ คือ แน่นอน ต่อการที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต เช่น พระโพธิสัตว์ในพระชาติที่เกิดเป็นสุเมธดาบส

๒. อนิยตพระโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่เคยได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ เลยว่าจะได้เป็นพระพุทธแจ้า เพียงแต่มีความตั้งใจที่จะสะสมอบรมเจริญบารมีด้วยการคิดอยู่ในใจและการเปล่งวาจา ซึ่งใช้เวลาหลายอสงไขย แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต


หลังจากที่พระโพธิสัตว์ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็เป็นพระโพธิสัตว์แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้ (นิยตโพธิสัตว์) มีคุณสมบัติมากมาย ตามข้อความในพระไตรปิฎก รวมถึง ไม่เกิดเป็นสัตว์เล็กกว่านกกระจาบ ไม่ใหญ่กว่าช้าง ดังนี้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม 8 ภาค 1 - หน้า ๒๖๙

ก็พระโพธิสัตว์ผู้มีอภินีหารอันสำเร็จแล้วอย่างนี้ ย่อมไม่เข้าถึง อภัพพฐานะ คือฐานะอันไม่ควร ๑๘ ประการเหล่านี้.

อธิบายว่า จำเดิมแต่สำเร็จอภินีหารแล้ว พระโพธิสัตว์นั้นไม่เป็น คนบอดไม่เป็นคนหนวกมาแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนบ้า ๑ ไม่เป็นคนใบ้๑. ไม่เป็นง่อยเปลี้ย ไม่เกิดขึ้นในหมู่คนมิลักขะ คือคนป่าเถื่อน ๑ ไม่เกิด ในท้องนางทาสี ๑ ไม่เป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิคือคนมีมิจฉาทิฏฐิอันดิ่ง ๑ ท่าน จะไม่กลับเพศ ๑ ไม่ทำอนันตริยกรรมห้า ๑ ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน ๑ ในกำเนิดดิรัจฉานจะไม่มีร่างกายเล็กกว่านกกระจาบ จะไม่ใหญ่โตกว่าช้าง ๑ จะไม่เกิดขึ้นในขุปปิปาสิกเปรตและนิชฌามตัณหิกเปรต ๑ จะ ไม่เกิดขึ้นในพวกกาลกัญชิกาสูร ๑ ไม่เกิดในอเวจีนรก ๑ ไม่เกิดใน โลกันตนรก ๑ อนึ่ง จะไม่เป็นมาร ๑ ในชั้นกามาวจรทั้งหลาย ใน ชั้นรูปาวจรทั้งหลาย จะไม่เกิดในอสัญญีภพ ๑ ไม่เกิดในชั้นสุทธาวาส ๑ ไม่เกิดในอรูปภพ ไม่ก้าวล้ำไปยังจักรวาลอื่น ๑.


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม 1 ภาค 5 - หน้าที่ ๑๐๙

พระโพธิสัตว์ผู้มีอภินิหาร (ตั้งความปรารถนาถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) สำเร็จแล้วอย่างนี้แล ย่อมไม่ถึงอภัพฐานะ ๑๘ ประการ จริงอยู่ พระโพธิสัตว์นั้น จำเดิมแต่นั้น ย่อมไม่เป็นคนบอดแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนหนวกแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนบ้า ๑ ไม่เป็นคนใบ้ ๑ไม่เป็นคนแคระ ๑ ไม่เกิดในชนชาติมิลักขะ ๑ ไม่เกิดในท้องของนางทาสี ๑ ไม่เป็นคนนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๑ ไม่เป็นคนกลับเพศ ๑ ไม่ทำอนันตริยกรรมห้าอย่าง ๑ ไม่เป็นคนโรคเรื้อน ๑ อัตภาพสุดท้ายไม่เวียนมาในกำเนิดดิรัจฉาน ๑ ไม่มีอัตภาพใหญ่กว่าช้าง ๑ ไม่เกิดในขุปปิปาสิกเปรตและนิชฌามตัณหิกเปรต ๑ ไม่เกิดในจำพวกกาลกัญชิกาสูรทั้งหลาย ๑ ไม่เกิดในอเวจีนรก ๑ ไม่เกิดในโลกันตริกนรก ๑ ไม่เป็นมารในสวรรค์ชั้นกามาวจร ไม่เกิดในอสัญญีภพในรูปาวจรภูมิ ไม่เกิดในภพสุทธาวาส ไม่เกิดในอันติมภพ ไม่ก้าวไปสู่จักรวาลอื่น ๑


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม 9 ภาค 2 - หน้าที่ ๖๙๑

พระนิยตโพธิสัตว์ ถึงพร้อมด้วยองค์ครบถ้วนอย่างนี้ แม้ท่องเที่ยวไปตลอดกาลยาวนานนับร้อยโกฏิกัปป์ ก็ไม่เกิดในอเวจี และในโลกันตริกนรก ไม่เกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต ขุปปิปาสิกเปรต กาฬกัญชิกาสูร แม้เข้าถึงทุคติ ก็ไม่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เมื่อเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด โสตก็ไม่วิกลบกพร่อง ไม่เป็นคนประเภทใบ้ ไม่เป็นสตรี ไม่เป็นคนสองเพศ และไม่เป็นบัณเฑาะก์. พระนิยตโพธิสัตว์ ไม่เป็นผู้นับเนื่องดังกล่าว พ้นจากอนันตริยกรรม มีโคจรบริสุทธิ์ในภพทั้งปวง ไม่เสพมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นว่ากรรมเป็นอันทำมีผล แม้อยู่ในสวรรค์ทั้งหลาย ก็ไม่เข้าถึงอสัญญีภพ ทั้งไม่มีเหตุที่ไปเกิดในเทพชั้นสุทธาวาส เป็นผู้น้อมไปในเนกขัมมะ เป็นสัตบุรุษ ไม่เกาะเกี่ยวในภพใหญ่น้อย บำเพ็ญแต่โลกัตถจริยาทั้งหลาย บำเพ็ญบารมีทั้งปวง


สำหรับ ฉัททันตชาดก ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นกัปป์ไหน แต่เป็นช่วงที่ว่างจากพระพุทธศาสนาแน่นอน เนื่องจากมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ส่วนสสปัณฑิตชาดก ในพระชาติที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกระต่าย อยู่ในกัปป์นี้ ตามข้อความใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม 3 ภาค 1 - หน้า ๒๗๗ ดังนี้

จริงอยู่ ในกัปป์นี้ ชื่อว่าปาฏิหาริย์อันตั้งอยู่ตลอดกัปป์มี ๔ ประการเป็นไฉน? เครื่องหมายกระต่ายบนดวงจันทร์จักตั้งอยู่ตลอดกัปป์นี้แม้ทั้งสิ้น ๑ ที่ที่ไฟดับในวัฏฏกชาดก ไฟจักไม่ไหม้ตลอดกัปป์นี้แม้ทั้งสิ้น ๑ สถานที่เป็นที่อยู่ของฆฏิการช่างหม้อ ฝนไม่รั่วรดจักตั้งอยู่ตลอดกัปป์นี้แม้ทั้งสิ้น ๑ ไม้อ้อที่ดังอยู่รอบสระโบกขรณีนี้จักเป็นรูเดียว (ไม่มีข้อ) ตลอดกัปป์นี้แม้ทั้งสิ้น ๑ ชื่อว่าปาฏิหาริย์อัน ตั้งอยู่ชั่วกัปป์ ๔ ประการนี้ ดังพรรณนามาฉะนี้.


ประโยชน์ของการศึกษาชาดก ไม่ใช่เพื่อรู้ว่าเกิดขึ้นในสมัยไหน แต่ประโยชน์คือเข้าใจความจริง ได้รับสารธรรมจากชาดกนั้นๆ ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

ฉัททันตชาดก ว่าด้วยพญาช้างฉัททันต์
สสปัณฑิตชาดก ผู้สละชีวิตเป็นทาน

... ยินดีในกุศลของคุณวินัยและทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ส.ค. 2568

ยินดีในกุศลจิตครับ moo

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ส.ค. 2568

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วินัย ไกรสีห์
วันที่ 13 ส.ค. 2568

อนุโมทนา..สาธุ..สาธุ อย่างยิ่ง ขอกุศลกรรมอันประกอบด้วยปัญญา จงนำพาให้ อ.คำปั่น สำเร็จผล ที่กุลบุตรในศาสนาประสงค์ทุกประการ เทอญฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ