กุศลจิตหรืออกุศลจิตที่ฝัน

ท่านอาจารย์ ที่เกี่ยวกับความฝัน คือว่า กุศลจิตหรืออกุศลจิตที่ฝัน เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการสะสมของแต่ละบุคคล ถ้าบุคคลนั้นมีโลภะมาก ความฝันก็เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยโลภะ ถ้าคนนั้นกำลังโกรธ หรือผูกโกรธใครอยู่ บางครั้งความฝันก็จะมีความตระหนกตกใจ หรือเป็นลักษณะของจิตที่เป็นโทสะ
สำหรับคนที่เห็นโทษของอกุศล เวลาที่ฝันด้วยอกุศล ก็ทำให้รู้ว่า มีอกุศลมากมายเหลือเกิน แม้ว่าจะกล่าวว่า ไม่เจตนา ไม่ตั้งใจที่จะฝันอย่างนั้นอย่างนี้ก็ตาม แต่แม้อกุศลจิตที่ฝัน ก็เป็นไปตามการสะสม คือกิเลสที่ยังมีอยู่ของตนนั่นเอง
เพราะฉะนั้นในความฝันในวันหนึ่งๆ จะเห็นได้ว่า น้อยนักที่จะเป็นกุศล สำหรับบางท่านอาจจะฝันเป็นกุศลมาก แต่ว่าตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าเป็นผู้ตรง วันนี้มีกุศลน้อยในชีวิตจริงๆ ที่ยังไม่ฝัน เพราะฉะนั้นเวลาฝันก็ต้องฝันด้วยอกุศลมากกว่าฝันด้วยกุศล แล้วเราเริ่มจะเห็นตัวเองตามความเป็นจริงว่า เป็นคนที่น่ารักหรือน่าชัง เพราะเหตุว่าเป็นคนมีอกุศลมาก ต้องรู้จักตัวเอง คนอื่นอาจจะไม่รู้จักอกุศลของเรา เพราะว่าไม่ได้แสดงออก บางครั้งก็เป็นเพียงความคิดนึกที่เป็นอกุศล แต่ถ้าเป็นผู้ที่ตรงจริงๆ เราก็รู้ตัวเองได้ว่า แท้จริงแล้วคนอื่นไม่อาจจะเห็นอกุศลของเราได้ และอกุศลนั้นก็ยังมีมากเหลือเกิน ถ้ารู้อย่างนี้ก็จะเป็นผู้เห็นโทษของอกุศล แล้วก็ศึกษาพระธรรมที่จะทำให้ปัญญาเกิด และอกุศลลดน้อยลง ถ้าเข้าใจ ก็เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา แม้ว่าจะเป็นเพียงเล็กๆ น้อยๆ นิดๆ หน่อยๆ เพราะเหตุว่ายังไม่ได้ศึกษาความละเอียดของธรรม หรือเรื่องของจิต เรื่องของเจตสิก เรื่องของรูป ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้ แต่ว่าก็ยังมีโอกาสที่จะได้เข้าใจเรื่องของจิตบ้าง เรื่องของการรักษาศีลหรือว่าการเจริญสมถวิปัสสนาบ้าง แต่ว่าเพียงเท่านี้ยังไม่พอ พระธรรมที่ทรงแสดงไว้ ๔๕ พรรษา แล้วเราจะฟังเพียงในเวลา ๒ ชั่วโมง หรือ ๔ ชั่วโมง เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจโดยตลอด แต่ว่าสามารถที่จะฟังอีกได้ เข้าใจอีกได้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเห็นประโยชน์


