ผู้ที่ประจักษ์ได้

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  13 ก.ค. 2568
หมายเลข  50373
อ่าน  443

วันหนึ่งๆ ระลึกรู้บ้างหรือไม่ มีโลภะกันคนละมากๆ ไม่ใช่น้อยเลย แต่ถ้าสติไม่ระลึกรู้ตามปกติในสภาพของนามธรรมว่าเป็นนามธรรม ก็ไม่มีหนทางที่จะไปประจักษ์ได้ว่า ที่ทรงแสดงไว้ว่า โลภมูลจิตไม่เที่ยงนั้นจริง แต่ผู้ที่จะประจักษ์ได้ต้องเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ


รับฟัง ...

โลภมูลจิต หรือสราคจิตก็ไม่เที่ยง

อย่างโลภมูลจิต หรือสราคจิตก็ไม่เที่ยง ทำอย่างไรจึงจะได้ประจักษ์สภาพของโลภมูลจิตว่าไม่เที่ยง เวลาที่จิตเป็นโลภะ ระลึกในขณะนั้นว่า เป็นนามธรรมชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ไม่ระลึกเลย และก็หวังที่จะไปรู้จิตที่สงบ ไปสร้างจิตที่สงบขึ้นเพื่อที่จะรู้ความไม่เที่ยง นั่นไม่เข้าใจอนุสัยกิเลสซึ่งมีอยู่ในจิตอย่างละเอียด ถ้าตราบใดที่ยังไม่รู้ลักษณะของนามธรรมรูปธรรมจนทั่ว ชัดเจน ถูกต้อง ชินขึ้น ละคลายมากขึ้นแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะไปดับความเห็นผิดที่เคยยึดถือนามรูปว่าเป็นตัวตน ไม่มีหนทางที่จะไปประจักษ์สภาพความไม่เที่ยง ความไม่ใช่ตัวตนของนามของรูปได้เลย

เพราะฉะนั้น เมื่อโลภมูลจิตเป็นสราคจิต เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน วันหนึ่งๆ ระลึกรู้บ้างหรือไม่ มีโลภะกันคนละมากๆ ไม่ใช่น้อยเลย แต่ถ้าสติไม่ระลึกรู้ตามปกติในสภาพของนามธรรมว่าเป็นนามธรรม ก็ไม่มีหนทางที่จะไปประจักษ์ได้ว่า ที่ทรงแสดงไว้ว่า โลภมูลจิตไม่เที่ยงนั้นจริง แต่ผู้ที่จะประจักษ์ได้ต้องเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ แม้แต่โลภมูลจิตที่มีเป็นปกติทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ทางใจบ้าง ในขณะใดเกิดขึ้นปรากฏ สติก็ระลึกรู้ลักษณะสภาพของโลภมูลจิต สราคจิตในขณะนั้นบ่อยๆ จนกว่าจะชิน จนกว่าจะรู้ทั่ว จนกว่าจะละคลาย และจะประจักษ์ความเกิดขึ้น และดับไปของโลภมูลจิตได้

แต่เวลานี้ที่ไม่สามารถประจักษ์ได้ เพราะไม่ว่าสติจะระลึกรู้ลักษณะของนามใดของรูปใดก็เป็นชั่วขณะนิดเดียว ตัวตนเยื่อใยก็เข้าไปแทรกอีกแล้ว เพราะเหตุว่าไม่รู้ลักษณะของนามและรูปจนทั่ว ก็ยังไม่สามารถละคลายได้ เมื่อไม่สามารถละคลายได้ ก็ไม่สามารถประจักษ์สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ [ตอนที่ 126]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
สิริพรรณ
วันที่ 14 ก.ค. 2568

หนทางรู้ความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อออกจากความทุกข์ ที่เกิดจากความยึดมั่นในความเป็นตัวตน ด้วยความเห็นผิด ละเอียด ลึกซึ้ง อย่างที่คิดเองไม่ได้เลย จึงต้องฟังคำที่ทรงแสดงหนทางนั้น เพื่อเข้าใจ สะสมไปๆ ทุกครั้งที่ตั้งใจฟัง

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

น้อมบูชาพระคุณท่านอาจารย์ผู้กล่าวความละเอียดในแต่ละคำของพระพุทธองค์

ยินดีในกุศลธรรมทานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Dechachot
วันที่ 14 ก.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ