โลกียไตรสรณคมน์ กับโลกุตตรไตรสรณคมน์

ท่านอาจารย์ ท่านที่มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ถึงไตรสรณคมน์มี ๒ อย่าง คือ โลกียไตรสรณคมน์ กับโลกุตตรไตรสรณคมน์ ถ้าเป็นโลกียไตรสรณคมน์ ก็กล่าววาจาว่า ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ แต่ว่าไม่มั่นคงเท่ากับผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจจธรรม เพราะเหตุว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในวันใดวันหนึ่ง
บางท่านก็อาจจะเปลี่ยนความเชื่อ เห็นว่าคำสอนของพระผู้มีพระภาคไม่ได้ช่วยชีวิตของเขา คิดว่าถ้าไปเลื่อมใสในลัทธิคำสอนอย่างอื่น เขาอาจจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน อันนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความเชื่อนั้นคลอนแคลนและก็ไม่มั่นคงได้
แต่สำหรับผู้ที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ โดยรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นพระอริยบุคคล ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าในภพไหน ชาติไหน เพราะเหตุว่าได้ประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ผู้ที่ยังไม่ประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง แม้ศรัทธาในการที่จะศึกษาและฟังพระธรรม ก็ยังเปลี่ยนได้ง่ายๆ บางวาระก็เป็นผู้ที่มีศรัทธามาก แล้วก็หายไปนาน ศรัทธาก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่ ก็เป็นไปได้ บางท่านก็ไม่กลับเลย บางท่านถึง ๒๐ ปีก็กลับมา แต่ว่าถ้าท่านสิ้นชีวิตก่อนถึง ๒๐ ปี ศรัทธาที่ท่านเคยมีแล้ว ก็ไม่ทราบว่าจะเจริญเติบโตต่อได้อีกหรือเปล่า ถ้าเกิดในภพภูมิซึ่งไม่มีคำสอนของพระผู้มีพระภาค บางท่านเคยฟังรายการธรรมเช้าค่ำ ไปๆ มาๆ ก็อาจจะเหลือแต่เช้า ค่ำไม่ฟัง ก็เป็นไปได้ นี่ก็เป็นเรื่องของศรัทธา



