การศึกษาพระไตรปิฎก
สวัสดีค่ะ
การศึกษาพระไตรปิฏก สามารถศึกษาได้ที่ไหนบ้างค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรม คือ สิ่งที่มีจริงทุกประการ ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริงทุกกาลสมัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงทั้งหมดถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง พระองค์ได้ทรงแสดงธรรม ทรงประกาศความจริงของธรรมตลอด ๔๕ พรรษา พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงไว้แล้วนั้นสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นพระไตรปิฎก ปิฎก คือ พระธรรมคำสอนที่รวบรวมเป็น ๓ หมวดหมู่ ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก
พระวินัยปิฎก ส่วนใหญ่แสดงความประพฤติทางกาย ทางวาจา ของภิกษุซึ่งเป็นเพศบรรพชิต เพศบรรพชิต แตกต่างจากเพศคฤหัสถ์ เพราะเป็นเพศที่มุ่งละความติดข้องในการครองเรือน ด้วยการสละทรัพย์สมบัติและกิจทั้งปวงของคฤหัสถ์ จะประพฤติอย่างคฤหัสถ์อีกต่อไปไม่ได้
พระสุตตันตปิฎก เป็นพระธรรมเทศนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ณ สถานที่ต่างๆ อนุเคราะห์ให้ผู้ฟังเข้าใจตามอัธยาศัยของผู้ฟัง
พระอภิธรรมปิฎก ไม่มีชื่อของสัตว์ บุคคล แต่เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมด
ทุกคำทุกพยัญชนะที่ปรากฏในพระไตรปิฎก แสดงถึงสิ่งมีจริงทั้งหมด ก็จะต้องค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังอ่านเริ่มจากครั้งที่หนึ่งไปครั้งที่สองไปครั้งที่สาม ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสามารถเข้าใจตามความเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง เมื่อยังสงสัยยังไม่เข้าใจส่วนใด นั้น การสอบถาม การสนทนากับกัลยาณมิตรผู้มีปัญญา ก็จะสามารถทำให้บรรเทาความสงสัยดังกล่าวและค่อยๆ เพิ่มพูนความเข้าใจไปตามลำดับครับ
ขอเชิญศึกษาได้ใน "ศึกษาพระไตรปิฎก" ในเวปไซต์บ้านธัมมะแห่งนี้
ตามลิงก์ด้านล่างนี้ครับ
www.dhammahome.com/tipitaka/section
..ยินดีในกุศลของคุณ Sutthatip และทุกๆ ท่านครับ ...
การศึกษาธรรมต้องทราบประโยชน์ว่า เพื่อรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แต่ละคนก็รู้ด้วยตัวเองว่า มีความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพียงใด เป็นการทดสอบผลของการศึกษาพระธรรมทั้งหมด ทั้งในชาติก่อนๆ และในปัจจุบันชาตินี้ด้วย
เมื่อมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ก็จะรู้ได้ว่า เป็นผู้ที่ได้เคยศึกษา เข้าใจ และอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพนามธรรมและรูปธรรมในชาติก่อนๆ มามากน้อยแค่ไหน ซึ่งท่านพระสารีบุตรเพียงฟังท่านพระอัสสชิ ท่านก็สามารถรู้แจ้ง อริยสัจจธรรมเพียงท่านพระอัสสชิกล่าวคาถาสั้นๆ ว่า ธรรมทั้งหลายย่อมเกิดจากเหตุ เท่านั้น การฟังพระธรรมของแต่ละบุคคลในแต่ละชาติ เป็นการแสดงให้รู้ถึงการอบรมเจริญสติและปัญญาในขั้นของ การฟัง การพิจารณา และสติปัฏฐานในชาติก่อนๆ ด้วย เพราะว่าการฟังเรื่องของนามธรรมและรูปธรรมทั้งหมดเพื่อให้รู้ว่า ในขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้เป็นธรรม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
ทุกท่านที่ได้อบรมเจริญปัญญามาบ้างแล้ว ก็มีสิ่งที่จะ สอบปัญญาของตนเองได้ เช่น มีกิเลสมาก หรือมีกิเลสน้อยตามความเป็นจริง และเมื่อรู้ว่ามีกิเลสมาก แล้วจะทำอย่างไรต่อไป นี่ก็เป็นปัญญาอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เข้าใจหนทางประพฤติปฏิบัติถูกต้องก็รู้ว่า เพียรเพื่อเข้าใจลักษณะของ สภาพธรรมโดยการฟัง และโดยการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม แต่ไม่ใช่อยาก ที่จะหมดกิเลสโดยวิธีอื่น
ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง



